รีวิวซีรีย์ Castle Rock ยินดีต้อนรับสู่เมืองสยอง
รีวิวซีรีย์ Castle Rock มาแล้วหนังสยองขวัญที่ผมตั้งหน้าตั้งตารอคอย จะเป็นเรื่องอะไรไปไม่ได้นอกจากcastle rock season 1 พากย์ไทย ที่ไม่ได้มีแค่ซีซั่นเดียวเห็นว่าจะมีซีซั่นสองอีกด้วย โดยที่ซีรีย์จะพาเราไปชมเมืองที่มีความวุ่นวาย กับการฆาตกรรม ฆ่าตัวตาย กันบ่อยมากจนถือว่าาเป็นเรื่องธรรมดา งานนี้Castle Rock Season 1 น่าจะถูกใจบรรดาเหล่าแฟนหนังสยองขวัญแน่นอน จะสยดสยองแค่ไหนไปชมกันได้ที่ ดูหนังออนไลน์ ได้เลยนะครับ
น่าสนใจน่าดู
มีซีรีย์เรื่องหนึ่งที่เป็น hulu Original แต่วันนึงมันก็ได้มาอยู่ใน Netflix ซึ่งผมก็เคยเห็นผ่านไปผ่านมา อยู่บ้าง จนถึงวันนี้นี่แหละ จึงได้มาเปิดดูซีรีส์แนวไซโคสยองขวัญที่นำคาแรกเตอร์ต่างๆ มาจากนิยายของ Stephen King มารวมเล่าให้เรื่องเดียวกัน ก็เรื่องcastle rock season 1 สปอย นั่นยังไงเล่า
ใครบางคนอาจจะดูแล้ว แต่ก็คงมีบ้างบางคนที่ยังไม่ได้ดู ซีรีส์ที่จบไปแล้ว 2 ซีซัน ซีซันละ 10 ตอน แต่เมื่อพบว่ามันเป็นซีรีส์ที่ดูสนุก โปรดักชันดี น่าสนใจ จึงน่าจะหยิบมาเขียนถึง เผื่อว่าใครที่ยังไม่ได้ดู อาจจะหันมาสนใจติดตามกันบ้าง แม้ซีรีส์จะไม่ได้ไปต่อในซีซันที่สาม แต่ในเมื่อมันมีเข้ามาให้ชมใน Netflix แล้ว ก็ไม่ควรจะผ่านเลยไปนิ เอาล่ะ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าว่าเรื่องราวในเมืองแคสเซิลร็อกมันเป็นเช่นใด
ผลงานซีรีส์ที่นำเอาทั้งตัวละครต่างๆ และสถานที่ ที่ปรากฏในหนังสือนิยายและภาพยนต์ที่เขียนโดย Stephen King มารวมไว้ในซีรีส์เรื่องนี้ มีทั้งความลึกลับ ซับซ้อน ฆาตกรรม จิตวิญญาณ ฌานพิเศษ กาลเวลา มิติคู่ขนาน แม้ว่าจะไม่ได้เป็นแฟนหนังสือ หรือดูหนังของสตีเฟนคิงไม่มาก ก็ไม่ต้องกลัวว่าดูจะไม่รู้เรื่อง เพราะมันมีเรื่องราวเป็นของตัวเองที่จะบอกเล่าเรื่องราวของ แคสเซิลร็อก เมืองที่มีแต่หายนะและความแปลกประหลาดมากมาย ไปติดตามกันได้ใน รีวิวหนังnetflixยอดนิยม
รีวิวซีรีย์ Castle Rock เมืองสยองขวัญ
ซีรีย์castle rock เรื่องย่อ ตัวซีรีย์จะพาเราไปชม เหตุการณ์ต่างๆที่แสนจะสยองที่เกิดในเมืองที่ชื่อว่า แคสเซิลร็อก เมืองที่มีตำนานอันยาวนาน ฆาตกรรม การฆ่าตัวตาย รวมไปถึงตำนานพ่อมดแม่มดอะไรนั่น รวมอยู่ในเมืองๆ นี้ แต่ก่อนอื่น ซีรีส์จะพาเราไปรู้จักกับคุกเลื่องชื่อที่ชื่อ ทัณฑสถานชอว์แชงค์ กันก่อน หลังพัศดีคนเก่าลาโลกลงทะเลสาบแคสเซิลเลก
พัศดีหญิงเธอได้มารับตำแหน่งและทำหน้าที่ใหม่ ได้รู้ว่าคนเก่านั้นได้แอบซุกซ่อนนักโทษไร้ชื่อเอาไว้ในแดนแปด เขาไม่รู้ชื่อตัวเอง เอาเป็นว่าเขาคือ The Kid ก็แล้วกัน เขาถูกขังอยู่ในคุกยาวนาน คำแรกที่เขาอ้าปากพูดเป็นชื่อของทนายคนหนึ่ง
Henry Matthew Deaver คือทนายคนนั้น เขาบึ่งรถกลับมายังเมืองแคสเซิลร็อกเพื่อว่าความให้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เขาก็คือคนเมืองนี้ มีประวัติเคยหายตัวไป 11 วันในสมัยเป็นเด็กวัย 11 ขวบ ก่อนจะกลับมาอย่างปาฏิหาริย์
ตอนนี้ พ่อบาทหลวงที่รับเขามาเลี้ยงก็ได้ตายไปแล้ว เขามาอยู่กับรูธ ภรรยาของบาทหลวง เธอเป็นโรคสมองเสื่อมแต่ก็อยู่ในความดูแลของ อลัน แพงบอร์น (Scott Glenn) ใช่แล้ว เขากลับมายังเมืองที่เต็มไปด้วยเรื่องราวลึกลับ เหนือธรรมชาติ และน่าหวาดหวั่น…เมืองนั้นอีกครั้ง ถ้าหากสนใจอยากดูอีกผมแนะนำเรือง Hellbound
ซีซั่นแรกก็สนุกแล้ว
โดยที่ซีซั่นแรกนั้นจะมุ่งเนื้อหาไปเกี่ยวกับชายที่ชื่อว่า เฮนรี ดีฟเวอร์ ชายผิวดำผู้ที่วัยเด็กของเขาขาดหายไป รู้เพียงว่าตนเคยหายไป 11 วัน แต่หลังจากนั้นก็กลับมาอย่างน่าประหลาดใจ เขาจดจำเรื่องราวก่อนหน้านั้นไม่ได้ จึงเริ่มลงมือสืบหาความจริงเกี่ยวกับตนเอง ความคิดเช่นนั้นเริ่มขึ้นเมื่อเขาออกจากฮิวสตันมายังคุกชอว์แชงค์เพื่อว่าความให้กับนักโทษลึกลับคนหนึ่ง
ขณะเดียวกัน ชายหนุ่มที่ถูกพบในคุก คนที่แทบไม่ปริปากพูดกับใคร คนที่เอ่ยคำแรกก็เป็นชื่อของเฮนรี่ ชายที่วันหนึ่งก็ได้ออกมาเดินนอกคุก เรื่องราวของชายผู้เด๋อด๋าคนนี้แท้จริงจะมีอะไรที่ลึกลับซ่อนอยู่ เป็นสิ่งที่ผู้ชมต้องการจะค้นหา
จุดที่ทำได้ดีในcastle rock season 1 สปอยมันก็คือ การที่ Henryเขามีเพื่อนบ้านอยู่ตรงข้ามกับบ้านของเราชื่อว่า มอลลี่ สแตรนด์ สมัยเด็ก เธอมักจะใช้กล้องส่องทางไกลลอบสังเกตพฤติกรรมของบ้านตรงข้ามอยู่บ่อยๆ ตอนนี้ เธอกลายเป็นสาวที่หาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นนายหน้าขายบ้าน และเธอก็มีพลังพิเศษ สามารถจะได้ยินเสียงของคนที่อยู่ใกล้ได้ ความสามารถนี้ ดูไม่ต่างกับ The Kid มากนัก แต่ฝ่ายหลังนี่จะชอบไปยืนอยู่บนที่สูงๆ แล้วลอบฟังเสียงผู้คน แถมจะชอบฟังเสียงความทุกข์เศร้าของผู้คนมากเป็นพิเศษ
การดำเนินเรื่องในซีซันแรกจะไม่ค่อยหวือหวามาก ใส่บรรยากาศชวนหวาดหวั่นพรั่นสะพรึงมาเป็นพักๆ จนแทบต้องใช้ความอดทนในการติดตามอยู่นิดหน่อย แต่สำหรับใครที่ชื่นชอบอะไรที่ชวนหลอน ชวนสงสัย ชอบการเล่าแบบหลอกล่อไปมา อาจรู้สึกชอบใจก็เป็นได้
ซีซั่นสองเข้าใจง่ายกว่า
ซีรีส์พาเราไปทำเป็นพื้นที่ที่มีทั้งชนผิวขาวเจ้าของพื้นที่ อาศัยอยู่ร่วมกับเหล่าชนผิวดำเชื้อสายโซมาลีที่ได้รับการเอื้อเฟื้อให้เข้ามาอยู่อาศัยของป็อป เมอร์ริลชายผู้มีหลานสองคน เอซ เมอร์ริล และคริส เมอร์ริล ต่างคนมีนิสัยต่างกันคนละขั้ว
ทุกอย่างมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อ แอนนี่ และ จอย สองแม่ลูกที่ขับรถย้ายที่อยู่ไปเรื่อยๆ เหมือนจะหนีอะไรสักอย่าง ก่อนจะมาประสบอุบัติเหตุที่ตรงทางเข้าเมืองพอดิบพอดี แอนนี่เองก็มีปัญหาด้านจิต เธอมักเห็นภาพหลอนน่ากลัวๆ จนต้องพึ่งพายาต้านอาการทางจิต เธอขโมยยาจากคลังยามาทุกที่ที่เธอทำงาน ทั้งยังพยายามจะจำกัดไม่ให้จอยออกไปสุงสิงกับใคร แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยฟัง
เมืองนี้กำลังจะเจริญขึ้นเพราะกำลังจะมีห้างเกิดขึ้น แล้วห้างถูกสร้างโดย แอ๊บดี้ พี่ชายของหมอนาเดีย ทั้งสองพี่น้องเป็นลูกบุญธรรมของป็อป โดยนาเดียก็คบหาอยู่กับคริส ขณะที่ใต้ดินเบื้องล่างของห้างแห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของหลุมฝังศพ
ซีซันสองของcastle rock season 2 สปอยนั้น เนื่อหาออกจะเข้าใจได้ง่ายกว่าซีซั่นแรก เรื่องราวค่อนข้างน่าตื่นเต้นกว่า ความรู้จักกับชีวิตเบื้องหลังของแอนนี่ที่จะทำให้รู้จักกับความจริงที่ถูกเก็บซ่อนในตอนแรกๆ และอดีตที่ส่งผลถึงความเป็นแอนนี่ในปัจจุบัน ถือว่า ซีซันที่สองนี่ทำได้สนุกเข้าขั้นเลยทีเดียว
ต้องตั้งใจดูถึงจะเข้าใจ
ตัวซีรีย์Castle Rock subthaiนั้นถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้น่าประทับใจ แถมยังแอบใส่ฉากที่ชวนให้ตกใจเข้าไปให้เราได้ ตื่นเต้นกันตลอดเวลาซึ่งฉากตุ้งแช่เหล่านี้ตอนผู้เขียนดูเองกลับรู้สึกว่า ไม่ตกใจ และเดาทางได้ง่ายไปหน่อยว่ามันจะโผล่มาแน่ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นเสียงที่จู่ๆ ก็ดังขึ้นผ่ามมากกว่าที่จะเป็นหน้าหลอนๆ ลอยมาแปะแบบหนังผี
แต่สิ่งที่ดีงามคือการนำเอาความลึกลับจากหลายๆ เรื่องของสตีเฟนคิง มารวมกันไม่ว่าจะเป็น ไสยศาสตร์ วิทยาศาสตร์ จิตวิทยา ความเชื่อ ช่องว่างและกาลเวลา ต่างมิติ มิติคู่ขนาน เสียงเพรียกของพระเจ้า พลังจิต คนที่มี Shine พลังแบบเด็กในหนังเรื่อง The Shinning โรงแรมผีนรก ฯลฯ เราจะได้เห็นเกือบทั้งหมดในซีรีส์เรื่องนี้เลย
ด้วยความที่มันผูกปมหลายๆ อย่างเอาไว้ในซีซั่นแรก และมีแต่ความลึกลับ ปริศนามากมาย ที่ในตอนท้ายของทุกตอนในซีซั่นจะมีการเฉลยและหักมุมแบบทุกตอน แม้ว่าจะเฉลยเรื่อวราวบางอย่าง กลับกลายเป็นว่ายิ่งเพิ่มปริศนาอีกอย่างเข้าไปอีก จนนำไปสู่ตอนจบแบบปลายเปิดให้ถกเถียงและขบคิดต่อ
ทำให้ซีรีส์เรื่อง แคสเซิลร็อก ต้องใช้สมาธิมากหน่อยในการดู เพราะมีรายละเอียกเล็กๆน้อยๆเยอะอยู่พอสมควร ในบทสนทนาของเหล่าตัวละคร ที่ไม่ได้พูดถึงเนื้อเรื่องหลัก แต่พูดถึงเรื่องราวของเมือง ตำนานเมืองต่างๆ กิมมิคพวกนั้นอาจจะโผล่มาตอนไหนก็ได้ ทำให้เราค่อนข้างที่จะ เฮ้ย
ตรงนี้ มันเป็นอันนี้ ที่คนนี้พูดถึงในตอนก่อนแน่ๆ หรือตรงนี้มาจากหนังเรื่องนี้ และมีให้คุณได้เอะใจทั้ง 10 ตอนของซีซั่นแรก ทำให้ความสนุกของการดูก็คือการได้คิดตามไปกับเรื่องราวที่ซีรีส์ได้เล่าถึงเมืองๆ นี้ออกมาอย่างไร ซึ่งมันใช้เวลาในการนำเสนอแต่ละตอนค่อนข้างจะเนิบนาบและนานเลยทีเดียว
มีหลายอย่างที่น่าสนใจใน Castle Rock
ความดูยากในซีซั่นก่อนถูกทำให้หายไป เนื้อหาย่อยง่ายและเข้าใจง่ายขึ้นมาก แต่กลับกันมันก็จะไม่มีความน่าติดตามในเรื่องบทสนทนา หรือบางฉากที่ใส่กิมมิคของนิยาย และหนังเรื่องอื่นๆ ของสตีเฟนคิง เข้ามาเป็นอัสเตอร์เอ้ก ซึ่งตรงนี้จะถูกทดแทนด้วยด้านดราม่าที่เพิ่มมากขึ้น
โดยเฉพาะดราม่าของชีวิต แอนนี่ วิลส์ ว่าทำไมเธอถึงมีอาการทางจิต วัยเด็กของเธอเป็นอย่างไร แล้วลูกสาวของเธอมาได้อย่างไร ซึ่งต้องของบอกเลยว่าจากคุณป้าสุดจิตในหนัง Misery จะกลายเป็นตัวละครที่คุณเชียร์ลุ้นและให้กำลังใจเธอผ่านอุปสรรคต่างๆ ในเรื่องเลยล่ะ
ส่วนในด้านดราม่าของฝั่งครอบครัวเมอร์ริลก็ดูธรรมดาๆ เพิ่มเข้ามาเป็นสีสันให้เข้าใจอะไรๆ ง่ายขึ้นมากกว่า ผิดจากของแอนนี่ แต่ด้านดราม่าของตำนานเมือง 400 ปีก่อนก่อตั้งเมืองเป็นอะไรที่ทำให้เนื้อเรื่องเข้มข้น น่าติดตามและทำให้เราอยากรู้มากขึ้นเรื่อยๆ
สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจคงจะเป็นฝีมือการแสดงของ Lizzy Caplan ที่รับบทเป็นแอนนี่ วิลส์ แสดงได้ดีมาก เธอนำเสนอด้านปกติและด้านจิตๆ ทั้งการพูด การเดิน การแสดงสีหน้าที่สามารถทำให้เรานึกย้อนไปถึงหนังเรื่อง Misery ที่ฉายเมื่อปี 1990 ซึ่งเธอคีปลุคของตัวละครแอนนี่ไว้ได้ดีมาก
ชื่อซีรีส์Castle Rock rotten tomatoes/ แคสเซิลร็อก
ผู้สร้าง Sam Shaw, Dustin Thomason
นักแสดง Bill Skarsgård, André Holland, Lizzy Caplan, Melanie Lynskey, Paul Sparks,Barkhad Abdi, Jane Levy, Yusra Warsama, Elsie Fisher,
แนว/ประเภท Drama, Fantasy, Horror, Mystery, Sci-Fi, Thriller
จำนวนตอน ซีซัน 1 (2018): 10 ตอน
ซีซัน 2 (2019): 10 ตอน
ช่องทางรับชม Netflix
ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ Bad Robot, Old Curiosity Shop, Warner Bros., Hulu, Netflix