วันนี้เรามารีวิวหนัง netflixมาใหม่ เรื่อง Uncharted ผจญภัยล่าขุมทรัพย์สุดขอบโลก เป็นภาพยนต์แนว แอคชั่น และผจญภัย ที่นำแสดงโดย ทอม ฮอลแลนด์, มาร๋ก วาห์ลเบิร์ก ที่หยิบเอาวิดีโอเกมชื่อดัง มาดัดแปลงเป็นภาพยนต์ สามารถหาชมได้แล้วแบบ เต็มเรื่อง พากย์ไทย หรือจะอ่านรีวิวหนังของเราได้แล้วที่นี้รีวิวหนัง
uncharted: legacy of thieves เกมฮิต Naughty Dog สำหรับแพลตฟอร์ม PlayStation PlayStation ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์โดย Sony Pictures และเปิดแบรนด์ย่อย “The PlayStation Studios” เพื่อรองรับการดัดแปลงเกมโดยเฉพาะกับ “อันชาร์ทิด” เป็นภาพยนตร์เรื่องแรก แฟรนไชส์การรวมทีมสำหรับภาพยนตร์ “Spider-Man” เข้าครอบครอง
นอกจากนี้ ชุด Spider-Man ของ Tom Holland ก็ถูกถอดออกเพื่อเปลี่ยนเป็นชุด Wild Adventures และมีการประกาศการตลาดครั้งใหญ่ที่ระบุว่า อันชาร์ทิด ยังคงเป็นเกมโปรดของ Tom ฮอลแลนด์ยังแสดงในเรื่อง “Spider-Man Homecoming” ซึ่งมีส่วนประกอบของการรับประกันนั้น และถูกกำหนดให้กำกับ “Venom” และ “Zombieland” ร่วมกับผู้กำกับ Ruben Fleischer ซึ่งรับประกันได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะต้องโดนใจอย่างแน่นอน ให้เต็มศักยภาพ ผู้ชม
เรื่องย่อ
ผจญภัยล่าขุมทรัพย์สุดขอบโลก เรื่องย่อ เป็นเรื่องราวที่แทบจะถอดออกมาจากวิดีโอเกม นาธาน เดรก โจรหนุ่มสุดฉลาดและมีไหวพริบ ได้ถูกเลือก โดยนักล่าขุมทรัพย์รุ่นเก๋า ซัลลี่ เพื่อหาขุมทรัพย์ทองของนักเดินเรือนามว่ามาเจลลัน โคตรมหาสมบัติ 500 ปีที่ไม่มีใครเคยเจอ จุดเริ่มต้นของการ โจรกรรมง่ายๆ กลายเป็นการแข่งขันสุดมันส์ข้ามทวีป
และเพื่อให้ถึงจุดหมายก่อนที่ มอนคาด้า ผู้ที่คิดว่าตัวเองคือผู้สืบทอดและเป็นเจ้าของที่แท้จริงของมหาสมบัติจะได้ไปครอบครอง การผจญภัยสุดมันส์ของ เนท และ ซัลลี่ ที่ต้องแก้ปมปริศนา เพื่อที่พวกเขาจะได้ พบกับขุมสมบัติมูลค่า 5 พันล้านเหรียญ และไม่แน่ว่าการผจญภัยคร้ังนี้นั้นอาจจะทำให้เนทได้พบกับพี่ชายที่หายสาบสูญไปหลายปีก็เป็นไปได้
“รูเบ็น แฟลชเชอร์” (จากหนัง Zombieland ทั้ง 2 ภาค) มารับหน้าที่เป็นผู้กำกับให้กับหนังเรื่องนี้ เราถือว่าเขาน่าจะค่อนข้างให้ความเคารพกับต้นฉบับของวิด๊โอเกมอยู่มาก จึงพยายามเอาใจคอเกมในตรงนี้อยู่ไม่น้อย แต่กระนั้นผลลัพธ์ที่ออกมาก็กลายเป็นหนังที่มีพล็อตและการเล่าเรื่องที่เชยสะบัด แทบจะไม่มีอะไรแปลกใหม่ใดๆ ออกมาให้รู้สึกตื่นเต้นเร้าใจสักเท่าไหร่ มันเป็นเพียงหนังแอคชั่นผจญภัยสูตรสำเร็จ ที่ผู้ชมเคยดูกันมาก่อนหน้านี้ 10-15 ปีที่แล้ว
การเล่าเรื่องและส่วนประกอบ ผจญภัยล่าขุมทรัพย์สุดขอบโลก
เท่าที่เราทราบในตอนแรก เราได้ยินมาว่า อันชาร์ทิด ได้รับแรงบันดาลใจจากภาคหนึ่งในซีรีส์ National Treasure ที่มีธีมของ Walt Disney ซึ่ง Nicholas Keyes แสดงนำ แต่คิดไม่ถึงว่าฟอร์มที่ออกมาแทบจะเหมือนกันเป๊ะขนาดนี้ หนังไขปริศนาตามล่าหาสมบัติต่างๆค่อนข้างแห้งและจืดชืดเล็กน้อย เงื่อนงำที่ค่อยๆ เผยให้เห็น ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้ผู้ชมประทับใจเช่นกัน
การเล่าเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นไปตามบรรทัดฐานของสูตรแอ็คชั่นผจญภัย นั่นเป็นแนวคิดในการนำรูปแบบหนังเก่านี้ แน่นอนว่าผสมกันเกือบสองชั่วโมงจะสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี มีการผจญภัยและปริศนาต่างๆ มากมาย แต่ไม่สามารถซื้อความตื่นเต้นให้กับผู้ชมได้ โดยเฉพาะบทที่ค่อนข้างอ่อน แต่ตัวละครที่นำเสนอไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหา
แต่ก็ถือว่าหนังได้ส่วนประกอบทางการแสดงของ “ทอม ฮอลแลนด์” กับ “มาร์ก วาห์ลเบิร์ก” มาช่วยพยุงเอาไว้เป็นแน่แท้ เพราะพวกเขาสามารถมอบสิ่งที่ผู้ชมอยากเห็นและอยากจะสัมผัสได้จากหนังเรื่องนี้ ความเป็นมืออาชีพของทั้งคู่ต้องช่วยประคับประคองหนังทั้งเรื่องเอาไว้ แม้ว่าจะค่อนข้างทุลักทุเลไม่เบา และก็ไม่ใช่ผลงานที่ดีอะไรของพวกเขาทั้งคู่เลย
ดังนั้น Uncharted อาจเป็นหนังแอ็คชั่นผจญภัยที่มีสูตรเดียวกัน การวนเวียนอยู่ใน Safe Zone ซ้ำซากจำเจ ภาพยนตร์จึงต้องเผชิญกับชะตากรรมของวิดีโอเกมลึกลับในโรงภาพยนตร์อีกเกมหนึ่ง เนื่องจากหนังยังไม่สามารถสร้างประเด็นใหม่ๆ ได้มากพอ มันให้ความรู้สึกเหมือนนั่งดูฉากต่างๆ จากวิดีโอเกมที่ถูกเปลี่ยนเป็นการแสดงสด น่าเสียดายที่โครงเรื่องมีน้ำหนักน้อยมาก
ใครที่เคยดู Uncharted จะเห็นว่าหนังเรื่องนี้ปูทางไปสู่ภาคต่อ ยังอยากจะให้โอกาสหนังเรื่องนี้ดูต่อและหาข้อแก้ตัวสำหรับภาคต่อไป แต่ดูเหมือนว่าผลลัพธ์โดยรวมของภาคแรกจะไม่ค่อยน่าจดจำ เพราะหลายๆ ฉากแทบจะโดดออกมาจากตัวอย่าง จบลงด้วยการเป็นภาพยนตร์แอคชั่นที่สร้างจากวิดีโอเกมที่ไม่มีความทรงจำ ไปและรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
จุดอ่อนของหนัง
อันชาร์ทิด พลาดโอกาสในการสร้างตัวละครที่น่าสนใจเป็นอย่างแรก สมมติว่ามีคนอื่นเล่นเป็น Nathan Drake มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ชมที่จะช่วยบาร์เทนเดอร์หัวขโมยที่แทบจะไม่ฉลาดพอที่จะถูกหลอก ถูกหลอก และสับสน คุณคิดปริศนาขุมทรัพย์ที่ซับซ้อนเช่นนี้ได้อย่างไร? อีกทั้งหนังยังเลือกประเด็นมาเล่าเยอะจนขาดความน่าเชื่อ
สิ่งที่ตามมาคือฉากที่น่าตื่นเต้นต่าง ๆ แม้ว่าเอฟเฟกต์ภาพจะยอดเยี่ยม แต่ก็ไม่มีข้อโต้แย้งว่าการรับชมจะไม่ไร้ประโยชน์อย่างแน่นอน แต่ความเพลิดเพลินแบบผิวเผินของหนังคือมันไม่ได้เน้นที่บทหรือสร้างอุปสรรคใดๆ ให้เราอยากช่วยเดรคและซัลลิแวน แม้จะเป็นตัวละครหลัก แต่เราก็ไม่มีข้อมูลที่จะเกาะติดหรือทำให้เรารู้สึกว่าต้องการให้พวกเขาค้นพบสมบัติ แม้ว่าตัวละครต่อต้านฮีโร่ของซัลลิแวนจะเป็นความสัมพันธ์ที่แสวงหาผลกำไร แต่ก็เดาได้ง่ายว่ามันไม่ได้จบลงด้วยการทิ้งเดรก
สุดท้ายแล้วแม้ว่าหนังจะได้นักแสดงระดับแม่เหล็กอย่างทอม ฮอลแลนด์มารับบทตัวละครที่แฟนเกมชื่นชอบ แต่ด้วยบทหนังที่แบนราบเกินไปมันก็ไม่ทำให้ฮอลแลนด์ดูมีเสน่ห์ในฐานะนักผจญภัยขาบู๊เท่าไหร่นักแม้ว่าจะมีฉากถอดเสื้อเซอร์วิสสาว ๆ ก็ไม่ช่วยเท่าไหร่ ส่วนมาร์ค วาห์ลเบิร์กก็เอาตัวรอดไปได้ด้วยลุคแบดบอยแต่ก็ดันดูไม่น่าเชื่อถือในฐานะโจรเศรษฐีเท่าไหร่นัก
ตรงกันข้ามกับบรรดานักแสดงที่มาสมทบโดยเฉพาะแอนโทนิโอ แบนเดอราสที่เสน่ห์แบบหนุ่มใหญ่ล้นเหลือมาก สำเนียงสแปนนิชก็เซ็กซี่จนกลบบรรดานักแสดงหลาน ๆ ซะมิดเชียวหรือจะเป็น ทาทิ แกเบรียล ในบทมือสังหารสาวก็ยังทำให้เราเห็นความเท่ของเธอ หรือจะเป็น โซเฟีย อาลี ที่ได้โชว์ความสวยคมคายแบบสาวลูกครึ่งตะวันออกกลางจนอย่างน้อยคนดูหนุ่มๆ ก็มีอะไรให้กระชุ่มกระชวยหัวใจบ้าง
ภาพรวมหนังเรื่องนี้
สิ่งที่ทำให้ ผจญภัยล่าขุมทรัพย์สุดขอบโลก ดีกว่าภาพยนตร์ของเกมภาคก่อนๆ ก็คือ เนื้อเรื่องดำเนินไปอย่างราบรื่นและสนุกสนาน รวมถึงบางสิ่งที่ดูเหมือนเป็นการลงทุนแต่ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ไขว้เขว บวกกับพลังดาราของ Tom Holland และ Mark Wahlberg สามารถช่วยนำพาภาพยนตร์เรื่องนี้ข้ามฝั่งไปได้ แต่ยอมรับว่าง่วงนิดหน่อยในช่วงแรก ๆ รวมถึงการที่ผมไม่มีเวลาเล่าประวัติของนาธาน ซึ่งทำให้หลาย ๆ คนไม่ค่อยสนใจบทนี้เท่าไหร่
โดยรวมแล้วอาจจะไม่ดีมาก แต่มันไม่ใช่หนังเกมที่เลวร้าย อย่างน้อยเมื่อเทียบกับ Jungle Cruise ที่ฉันดูเมื่อเร็ว ๆ นี้ในฐานะการผจญภัยตามล่าหาสมบัติ เราก็ยังรู้สึกว่าสามารถผ่านหนังไปได้โดยไม่มีปัญหา ฉันทำให้เรื่องราวน่าสนใจขึ้นเล็กน้อย แม้ว่ามันจะดูซ้ำไปซ้ำมาและไม่มีอะไรน่าจดจำเลยก็ตาม
แต่สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ใครอยากดูหนังผจญภัยสนุกๆ หรือเป็นแฟนเกม Uncharted ก็เรียนเชิญมาพิสูจน์กันเองในโรงภาพยนตร์ได้ครับ คุณอาจดูแล้วชอบมากๆ ก็ได้ใครจะรู้
วิจารณ์หนัง Uncharted ผจญภัยล่าขุมทรัพย์สุดขอบโลก
แต่หากเราพูดในมุม ของคนวิจารณ์หนัง ยังถือว่ามีจุดด้อย อยู่มากพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นในเรื่อง ของการผูกเรื่อง เพื่ออธิบายตัวละคร มีความงงงวยอยู่บ้าง ทำให้ผู้ชม เกิดความสงสัยในหลาย ๆตอนทั้งยังมีในเรื่อง ของตัวละครอย่าง นาธานที่โง่เง่าเต่าสุด ๆ ใครเห็นก็ไม่น่า เอาเขามารวม ในแผนการครั้งนี้ได้
แฟน ๆ คิดอย่างไรถ้านักแสดงไม่ใช่ทอม ฮอลแลนด์? อาจจะผิดหวังกับหนังเรื่องนี้ถึงธรรมชาติของตัวละคร Sun Liwen ที่มีชื่อเหมือนสมองเพชรจะเป็นแบบอย่างที่น่าหมั่นไส้แค่ไหนทุกครั้งที่มีเรื่อง ตัวละครนี้ มักจะเอาชีวิตรอดจากแบกแดดมาอย่างโชกโชนและไม่เป็นอะไร คิดว่ามันเป็น แต่ก็มีฉากเด็ด ๆ ให้ได้ดูลุ้นระทึกกันบ้าง
ไม่เหมือนกับทีมอื่นๆ ใน Who’s On a Treasure Hunt เพราะนักแสดงเล่นได้อย่างสมศักดิ์ศรีสมกับเป็นนักธุรกิจตัวจริง ซึ่งเป็นบทบาทที่กลบตัวละครหลัก ไม่มีปัญหารอยเปื้อนในทุกครั้ง แต่ตัวละครหลักของเรามักจะผ่านมันไปได้ค่อนข้างบ่อย ส่งผลให้สายคล้องคอรู้สึกไม่ว้าวโดยสิ้นเชิง หรือเดาได้ง่ายว่าเนื้อเรื่องเกี่ยวกับอะไร
ซึ่งหากการเปิดตัว ของหนังเรื่องนี้ ต้องการเรียกลูกค้า จากกลุ่มคอเกม คิดว่าก็สามารถ ดึงลูกค้าได้ อยู่พอสมควร แต่ถ้าสำหรับแฟน ๆ หนังเรื่องนี้ยังถือว่า ไกลจากคำว่า หนังระดับคุณภาพอยู่อีกมาก ถ้าไม่ได้ใช้นักแสดง ระดับตัวท็อป ของวงการบอกเลยว่า จะเป็นภาพยนตร์ ที่ธรรมดาเรื่องหนึ่ง
แต่เห็นได้ว่าเวลาว่างหนังเรื่องนี้สามารถทำอะไรได้มากกว่านักแสดงแต่ละคนมากขึ้น ถือว่าเป็น จุดที่เรียกลูกค้าได้ดีที่สุด ถ้าเนื้อเรื่องทำได้ดีกว่านี้ รับรองได้เลยว่ามันจะเป็นหนังระเบิดที่ไม่มีทางทำได้ อย่างที่เราเห็น
สำหรับหนังเรื่องนี้ที่เรามาดูเพราะนักแสดงเป็นนักแสดงระดับเทพในทุกคนและรู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ด้านเนื้อหา หนังยังดูธรรมดาไปหน่อย น่าเสียดายนิดหน่อยแต่สำหรับใครที่ยังไม่ได้ดูหนัง คุณจะรู้สึกอย่างไรถ้าได้ดูโดยสามารถติดตามได้จากโรงภาพยนต์ขนาดใหญ่ตอนนี้ที่เข้าฉายแล้ว? อย่าลืมที่จะแบ่งปัน
