รีวิวหนังnetflix Sweet Girl
รีวิวหนังnetflix Sweet Girl “เจสัน โมโมอา” ได้เวลามาสลัดภาพความเป็นซูเปอร์ฮีโร่จ้าวสมุทรชั่วคราวกับผลงานใหม่ของเขาใน “Sweet Girl” หนังระทึกขวัญไล่ล่าสุดระทึก จากปมความแค้นที่นำพาไปสู่อันตรายที่กำลังคุกคามครอบครัวของเขา ในหนังที่เต็มไปสูตรสำเร็จเดิมๆ มีจุดที่ขัดใจ และหาความสดใหม่แทบไม่ได้ แต่กลับกลายเป็นว่ายังคงเป็นหนังที่ปลุกเร้าความระทึกใจที่คดูยังสนุกอยู่แบบหอมปากหอมคอพอไปได้ เว็บดูหนัง
เป็นเรื่องราวของ เรย์ คูเปอร์ ชายผู้รักครอบครัวและมุ่งมั่นที่จะทวงคืนความยุติธรรมจากบริษัทยาที่มีส่วนรับผิดชอบในการถอดถอนยาที่ช่วยชีวิตคนจากโรคมะเร็งออกจากตลาด ก่อนที่ภรรยาสุดที่รักของเขาจะสิ้นลมหายใจลงไป แต่เมื่อการสืบค้นหาความจริงได้นำไปสู่การเผชิญหน้าสุดอันตราย ที่ทำให้เขากับ เรเชล ลูกสาวต้องตกอยู่ในความเสี่ยงไปด้วย ภารกิจของเขาจึงเปลี่ยนไปเป็นการทวงแค้นเพื่อปกป้องสมาชิกครอบครัวที่เหลืออยู่
ผลงานหนัง Original Netflix ที่ดึงดาราใหญ่อย่าง Jason Momoa มาร่วมงาน โดยมีผู้กำกับ Brian Andrew Mendoza ที่ปกติเป็นโปรดิวเซอร์หนังของ Jason Momoa มาหลายเรื่อง มากำกับเรื่องนี้เองครั้งแรก ซึ่งก็เป็นงานที่ Netflix ทุ่มทุนกว่าปกติ โปรดักชั่นดูดีไปอีกระดับ แต่ก็ยังไม่ถึงขนาดหนังฟอร์มยักษ์แบบหนังโรงได้อยู่ดี เว็บดูหนังฟรี
หนังเรื่องนี้เป็นแอ็กชั่นดราม่า ที่เล่าเรื่องราวของ เรย์ คูเปอร์ สามีที่เห็นภรรยาตายไปต่อหน้าจากโรคมะเร็ง โดยมีปมเรื่องยารักษาที่แพงเกินจริงจากบริษัทยายักษ์ใหญ่อยู่เบื้องหลังการตายของเธอ เขาสัญญาว่าจะทวงคืนความยุติธรรมครั้งนี้ พร้อมปกป้องลูกสาว เรเชล (เล่นโดย Isabela Merced นางเอกเด็กจากหนัง Dora and the Lost City of Gold) ซึ่งเป็นสมาชิกคนเดียวในครอบครัวที่ยังเหลืออยู่ จากการตามล่าของมือสังหารที่พยายามปิดปากทุกคนที่พยายามสืบหาเบื้องหลังของผู้มีอิทธิพลกับเรื่องนี้
นี่เป็นผลงานการกำกับหนังใหญ่เรื่องแรกของ “ไบรอัน แอนดรูว์ เมนโดซา” โปรดิวเซอร์คู่บุญที่ทำงานกับ เจสัน โมโมอา มาแล้วหลายเรื่อง นี่อาจจะเป็นส่วนที่ทำให้วิสัยทัศน์และการถ่ายทอดผ่านงานหนังชิ้นนี้ออกมาในรูปแบบที่ค่อนข้างไหลลื่นด้วยดี แม้ว่าองค์ประกอบต่างๆ ในหนังจะค่อนข้างซ้ำซากจำเจกับหนังแนวระทึกขวัญไล่ล่าที่เคยเห็นมามานักต่อนัก และไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่เลยก็ตาม
บทหนังเรื่องนี้ได้ 2 นักเขียน “เกร็ก เฮร์วิตซ์” และ “ฟิลลิป ไอสเนอร์” มาช่วยขัดเกลาให้ พวกเขาอาจจะคร่ำหวอดอยู่ในวงการมาสักพัก แต่ยังไม่ค่อยมีประสบการณ์มากนัก ทำให้บทหนัง Sweet Girl ออกมาในรูปแบบสูตรสำเร็จตั้งแต่เริ่มต้น ให้ความรู้สึกเหมือนกับนั่งดูหนังเกรดรองๆ ที่สร้างมาเพื่อฉายทางโทรทัศน์มากกว่าหนังสำหรับฉายในโรงภาพยนตร์ แต่กลับพลิกขั้วได้อย่างมีสไตล์ในช่วง 30 นาทีสุด ที่ทำให้คนดูต้องรู้สึกตื่นเต้น!
ว่าด้วยเรื่องราวของ เรย์ คูเปอร์ (รับบทโดย เจสัน โมโมอา) คุณพ่อที่พยายามทุ่มแรงกายหาเงินมารักษาภรรยาของเขาที่ล้มป่วยอยู่ในโรงพยาบาล พร้อมกับคอยดูแล เรเชล คูเปอร์ (รับบทโดย อิซาเบลา เมอร์เซ็ด) ลูกสาวของเขาอย่างใกล้ชิด
เมื่อภรรยาของเรย์ได้เสียชีวิตลง เขาก็เริ่มออกมาทวงหาความยุติธรรมจากบริษัทยายักษ์ใหญ่ ที่ดูเหมือนจะมีผลประโยชน์จากองค์กรอื่นแอบแฝงมาอีก หนังฟรี
บทถูกเขียนมาเพื่อสร้างดราม่าสะเทือนใจครอบครัวโดยเฉพาะ โดยการเล่นประเด็นเรื่องค่ารักษามะเร็งที่สูบเลือดเนื้อครอบครัวผู้ป่วยไปจนหมดตัว โดยมีเบื้องหลังการสมรู้ร่วมคิดของบริษัทยากับคนในรัฐบาลมาเกี่ยวข้อง ซึ่งสถานะครอบครัวคนจนตัวเล็กๆ อย่างเรย์ถึงรู้ว่ามีเรื่องไม่ชอบมาพากล แต่ก็ไม่สามารถจะสู้กับนายทุนอิทธิพลขนาดใหญ่ที่อิงแอบกับอำนาจรัฐแบบนี้ได้ เนื้อเรื่องครึ่งชั่วโมงแรกก่อนเข้าสู่ช่วงแอ็กชั่นของเรื่องถือว่าบิ้วอารมณ์เศร้าสะเทือนใจได้ดีเลย ผ่านการแสดงของเจสันที่ปกติไม่ค่อยเห็นอารมณ์ในแบบนี้นัก ในซีนที่เขาต้องหาที่หนีไปร้องไห้คนเดียวในโรงพยาบาลหลังการตายของภรรยา เป็นอะไรที่เจสันทำได้ดีเกินคาดต่างจากภาพลักษณ์ปกติที่เห็นมาก จนดูเหมือนว่าจริงๆ แล้วเจสันเลือกเล่นเรื่องนี้เพื่อพลิกบทจากแนวทางปกติของเจสันด้วย
เจสัน โมโมอา ยังคงให้การแสดงที่ใช้ได้ตามมาตรฐานของเขา บทที่เขาได้รับอาจจะไม่ได้แตกต่างจากผลงานเรื่องก่อนๆ ของเขาสักเท่าไหร่นัก แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขามีเสน่ห์กับบทบาทในลักษณะนี้เป็นอย่างดี และก็ทำออกมาได้น่าพอใจอยู่ ในขณะที่ “อิซาเบลา โมเนอร์” เป็นความเซอร์ไพรส์ของหนังเรื่องนี้ สามารถมมองออกได้ว่าบทที่เธอได้รับมีอะไรซ่อนอยู่ มีเส้นเรื่องและมิติที่รอการค้นหา กระทั่งหนังได้ตัดสินใจเลี้ยวหักศอกกะทันหันในช่วงท้าย และปรับโทนอารมณ์ของหนังให้สนุกยิ่งขึ้น
โดยภาพรวมแล้วนั้น Sweet Girl มีกลิ่นอายของหนังทริลเลอร์ไล่ล่าหลายๆ เรื่องรวมกัน มีส่วนผสมแบบในแฟรนไชส์หนัง Bourne นิดหน่อย บวกกับหนังทวงแค้นอย่าง Taken และหนังบู๊สไตล์ที่ “เลียม นีสัน” ชอบได้รับบทนำอยู่ทุกวันนี้ หนังปูเรื่องอย่างราบเรียบไม่ค่อยน่าตื่นเต้น แต่ค่อนๆ ยกระดับความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ก่อนจะนำไปสู่จุดหักมุมที่ต้องทำให้คนดู…อ้าปากค้างได้
รีวิวหนังnetflix Sweet Girl
จากเนื้อเรื่องข้างต้น เป็นการปูพื้นให้ เจสัน โมโมอา ได้มีโอกาสแสดงศักยภาพในการเล่นบทดราม่าได้อย่างน่าชื่นชม แสดงออกถึงความสูญเสียได้อย่างน่าเห็นใจ กอปรกับสาวน้อย อิซาเบลา เมอร์เซ็ด ที่ถึงแม้ว่าจะยังคงความน่ารักสดใสอยู่เสมอ แต่แววตาของเธอสามารถสื่อถึงความเสียใจและความโกรธได้แทบจะตลอดทั้งเรื่อง หนังใหม่
อีกสิ่งที่น่าชื่นชมเอามากๆ คือการถ่ายภาพในสไตล์ Handheld ที่มีความสั่นไหวตลอดเวลา ของ แบร์รี แอครอยด์ ‘Barry Ackroyd’ ที่เคยกำกับภาพให้ภาพยนตร์ของ พอล กรีนกราส (Paul Greenglass) อย่าง ‘United 93’ (2006) และ ‘Captain Phillips’ (2013) ก็ยังคงประสิทธิภาพ ไม่ทำให้เกิดความเวียนหัวแต่อย่างใด ผสานกับการตัดต่อท่ี่ทำได้ดี ส่งผลทำให้ได้ภาพฉากต่อสู้ และไล่ล่ามีความดิบและสมจริง ราวกับได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์ในแฟรนไชส์ ‘Jason Bourne’
ความรู้สึกแรกของหนังเรื่องนี้คือสามารถดูได้เพลินๆ สนุกตามสูตรที่วางหมากเอาไว้ มีตัวละครที่หนักแน่นและมีตัวละครเป็นตัวถ่วงที่ชวนทำให้คนดูแอบรู้สึกหงุดหงิดอยู่เบาๆ ยังมีความไม่สมเหตุสมผลอยู่เต็มไปหมด เส้นเรื่องการสืบเสาะหาข้อเท็จจริงในหนังก็ยังไม่ค่อยหนักแน่นพอสักเท่าไหร่ จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงท้ายเรื่องได้บีบรัดตัวเองด้วยการหักมุมแบบน่าประหลาดใจ จึงทำให้หนังที่ออกจะดูน่าเบื่อๆ ทวีคูณความสนุกทดแทนขึ้นมาได้
ในท้ายที่สุดแล้ว Sweet Girl ก็เหมาะสมดีแล้วที่สร้างออกมาเป็นหนังฉายจอเล็กแบบนี้ เพราะหลายองค์ประกอบของหนังยังไม่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะไปสู้กับหนังเรื่องอื่นๆ บนบ็อกซ์ออฟฟิศ ถึงแม้ว่าหนังจะไม่ได้แย่อะไร แต่ก็ยังไม่ใชหนังที่ดีสมบูรณ์แบบเพียงพอที่จะน่าจดจำสักเท่าไหร่ เป็นหนังอาชญากรรมระทึกขวัญที่ระดับความเข้มข้นยังไต่ไปไม่ถึงที่ สตาร์ทติดเครื่องได้ช้า แต่ก็ยังพอมีรสชาติให้รู้สึกอร่อยอยู่ ดูหนังฟรี
ถึงหนังปูทางไว้อย่างดีในช่วงแรกให้คนดูได้เห็นความอยุติธรรมที่เกิดขึ้น แต่ช่วงต่อมาเนื้อเรื่องก็ไม่ได้มาแนวแก้แค้นในทันทีอย่างที่คิด เนื้อเรื่องสคิปเวลาผ่านมา 2 ปี ที่ดูเหมือนพ่อลูกจะทำใจกับการจากไปได้แล้ว แต่กลับเกิดเหตุให้พ่อลูกคู่นี้ต้องกลายมาเป็นอาชญากรที่ FBI ตามล่าตัว หลังเรย์ไปก่อคดีอาชญากรรมร้ายแรงกับ CEO บริษัทยาที่เขาแค้นขึ้น ซึ่งช่วงนี้คนดูคงรู้สึกแปลกๆ อยู่นิดๆ กับบทหนังที่ไม่ได้ปูแบ็คกราวด์ของเรย์ไว้มากมาย นอกจากเป็นคนชอบศิลปะการต่อสู้และสอนลูกเอาตัวรอดในแบบต่างๆ ตั้งแต่เด็ก แต่เรย์กลับกลายเป็นสายบู๊เต็มสูบ
ที่เก่งจนเหมือนพวกตัวเอกหนังสายลับเลยก็ว่าได้ เก่งขนาดที่ใช้มือเปล่าสู้กับคนมีปืนที่ถูกฝึกมาได้ หรือแม้แต่นักฆ่าอาวุธครบมือที่มาตามล่าก็ยังไม่รอด จนดูเว่อร์เกินไป แต่แน่นอนว่าพอเป็นหนังแอ็กชั่นคนดูทั่วไปคงสนใจแค่ว่า มันส์ไม่มันส์เป็นหลัก เรื่องความไม่สมเหตุผลอะไรแบบนี้มักถูกมองข้ามไปได้ง่ายๆ ก็ต้องบอกเลยว่าผู้เขียนแม้รู้สึกติดใจกับการที่พระเอกเก่งขึ้นมาแบบเว่อร์ๆ ก็จริง แต่ก็ยังรู้สึกว่าหยวนๆ สนุกไปกับเรื่องได้อยู่ดี ซึ่งตัวหนังก็วางฉากแอ็กชั่นการต่อสู้มือเปล่าปะทะตัวร้ายที่พระเอกค่อยๆ สืบสาวเจอลึกโยงใยขึ้นเรื่อยๆ ได้ดีพอสมควรเลย แต่ก็แอบเห็นจังหวะหลุดคิวกันอยู่บ้าง (แบบต่อยวืดแต่ล้มงี้) หรืออัดกันจนน่วมกับตัวร้ายหลัก แต่ตัวร้ายดันไม่มีแผลหรือเลือดเลยสักนิด
และฉากหักมุมที่ควรจะเป็นหมัดเด็ด กลับพลาดเป้าไปอย่างน่าเสียดาย แม้ว่าจะเป็นการตอบโจทย์ถึงการกระทำที่น่ากังขาของตัวละครหลักตลอดทั้งเรื่อง แต่ก็ไม่ใช่หมัดฮุกอย่างที่ผู้สร้างคาดหวังไว้
แต่ด้วยการใส่ฉากแอ็กชันไล่ล่า และต่อสู้แบบตัวต่อตัวที่ได้รับการออกแบบมาอย่างดีเข้ามาให้อย่างเต็มที่ ก็ช่วยประคับประคองผู้ชมได้เอาใจช่วยตัวละครไปได้ตลอดทั้งเรื่อง
ในระหว่างที่ใส่ฉากแอ็กชั่นเข้ามาเรื่อยๆ อาจจะไม่ถี่แต่ก็มีมาตลอด เนื้อเรื่องก็พ่วงปมดราม่าพ่อที่พยายามปกป้องลูกสาวไปพร้อมกัน โดยเขาพยายามทิ้งลูกสาวเพื่อไม่ให้มาเสี่ยงอันตรายด้วย แต่กลายเป็นว่าตัวลูกกลับดื้อดึงจะอยู่กับพ่อ และแอบติดต่อกับ FBI สาวที่ไล่ล่าพวกเขา ที่กลับกลายมาเห็นใจในความอยุติธรรมที่เกิดกับครอบครัวนี้ขึ้นมา ซึ่งฉากแอ็กชั่นไล่ล่าของ FBI ในช่วงท้ายถูกตัดเอามาเป็นฉากเปิดเรื่องในตอนแรกด้วย ก่อนที่เรื่องจะเล่าย้อนกลับมาชนกันกับฉากที่ตัดไปอีกครั้ง ซึ่งเป็นเทคนิคการเปิดเรื่องให้ดูน่าตื่นเต้นตามปกติ แต่สำหรับเรื่องนี้ฉากนั้นกลับมีอะไรมากกว่าที่เห็น และกลายมาเป็นจุดหักมุมใหญ่สุดของเรื่องราวที่เกิดขึ้นตามมา โดยอิงกับชื่อเรื่องนี้ที่เชื่อว่าคนดูส่วนใหญ่ต้องสงสัยว่าทำไมหนังแอ็กชั่นดุเดือดที่เจสันเล่นกลับตั้งชื่อเป็นผู้หญิงหวานๆ แบบนั้น
อย่างไรก็ดี ทีมงานสร้าง ‘Sweet Girl’ นั้น สามารถส่งสาส์นที่ต้องการออกมาได้อย่างชัดเจน โดยมีการเน้นย้ำถึงจิดใจอันบอบช้ำจากความสูญเสียของทั้งผู้เป็นพ่อ และลูกสาว อยู่ตลอดทั้งเรื่อง โดยเฉพาะตัวละครเรเชล ที่ต้องแบกรับทั้งอารมณ์โกรธและเสียใจไปพร้อมๆ กัน และต้องการใครสักคนคอยให้คำปรึกษาและกำลังใจ เพื่อให้ก้าวเดินต่อไปได้ ดูหนังออนไลน์