รีวิวซีรี่ย์จาก netflix เรื่อง My Name

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมารีวิว ซีรีย์เกาหลี แนวแอ็คชั่น อาชญกรรม เรื่อง My Name ซีรี่ย์ที่ติดอันดับหนึ่งของ netflix ในประเทศไทย เต็มเรื่อง พากย์ไทยและ ซับไทย ซีรีส์แอ็คชั่นฟิล์มนัวร์นี้สำรวจจุดพลิกผันของแก๊งค้ายาและตำรวจ แล้วใครกันที่เป็นคนฆ่าพ่อของหญิงสาวจนเธอต้องลุกขึ้นมาแก้แค้น? สามารถหาชมได้แล้วที่เว็บดูหนังใหม่ ของเราหรือ อ่านรีวิวของเราก่อนก็ได้

เรื่องราวซีรี่ย์เรื่องนี้

My Name เรื่องย่อ เป็นเรื่องราวของ ‘ยุนจีอู’ (ฮันโซฮี) นักเรียนมัธยมคนหนึ่งที่มีพ่อเป็นนักเลงค้ายา พ่อของจีอูถูกฆาตกรรมที่หน้าห้องของพวกเขา ทำให้จีอูตั้งเป้าหมายที่จะแก้แค้นแทนพ่อของเธอให้ได้ เธอเข้าไปฝึกการต่อสู้ในแก๊งที่พ่อเธอเคยอยู่ โดยมี ‘ชเวมูจิน’ (พัคฮีซุน) หัวหน้าใหญ่คอยสนับสนุน จนเมื่อถึงเวลาจีอูก็แฝงตัวเข้าไปเป็นตำรวจในนาม ‘โอฮเยจิน’ เพื่อตามหาตำรวจที่ฆ่าพ่อของเธอ แต่เธอกลับได้พบกับความจริงที่เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อน

ถึงแม้พล็อตจะไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่หรือคาดเดาได้ยากนัก แต่ตัวซีรี่ย์เรื่องนี้ ก็ยังดำเนินเรื่องได้ชวนติดตามด้วยการแสดงที่แข็งแรงโดยเฉพาะ ฮันโซฮีที่ได้แสดงฝีมือเต็มที่ในฉากดราม่าหนัก ๆ และพัคฮีซุนที่มีเสน่ห์เหลือร้ายในบทชเวมูจิน สิ่งที่น่าชื่นชมเป็นพิเศษคือเคมีการแสดงของทั้งสองคนที่ทำให้เห็นความผูกพันและความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างตัวละครทั้งสองได้เข้มข้น จนทำให้ตัว จอนพิลโด ที่รับบทโดยอันโบฮยอนดูจืดไปถนัดตา ถึงแม้เขาจะแสดงได้ดีไม่มีอะไรบกพร่องก็ตาม

My Name

รีวิวซีรี่ย์ My Name ซีรี่ย์แนวแอคชั่น ไขปริศนา

My Name เป็นซีรีส์แนว revenge drama หรือแนว ‘ข้ามาเพื่อแก้แค้น’ ที่เล่าเรื่องเรียงไปแบบคลาสิคเรียงลำดับไปตั้งแต่ต้นจนจบ แต่มีเสน่ห์ที่การผสมองค์ประกอบของหลาย ๆ แนว อย่าง แอคชั่น ไขปริศนา ทริลเลอร์ที่มีเรื่องให้ลุ้นอยู่เรื่อย ๆ และโดดเด่นด้วยความองค์ประกอบของความเป็นฟิลม์นัวร์ ที่สะท้อนด้านมืดของจิตใจมนุษย์ผ่านทางงานภาพที่ใช้สีสันโทนค่อนข้างมืด เหมาะสมกับความดาร์คของเรื่อง เข้าคู่กันได้ดีกับเพลงประกอบที่มีจังหวะหนักหน่วง ซีรีส์เล่าเรื่องได้สนุก

อันที่จริง ซีรีส์การแก้แค้นมักปรากฏบ่อยและได้รับความนิยมมาก เช่น Taxi Driver, Vinzenzo หรือ Itaewon Class แต่ส่วนใหญ่แล้วเรื่องราวการแก้แค้น ซีรีย์ทั้งเอเชียและยุโรปมักจะนำโดยตัวเอกชายที่ต้องการแก้แค้น เล่นเป็นนางเอกหรือเพื่อนร่วมทีมที่สวย เก่ง ฉลาด โดยมีผู้หญิงคอยสนับสนุน มักจะช่วยวางแผนให้ประสบความสำเร็จ ด้วยกลวิธีที่หลากหลายและการใช้เล่ห์เหลี่ยมของผู้หญิงเป็นเหยื่อล่ออยู่บ่อยครั้ง แม้แต่กับพวกตัวฉกาจอย่างกัปตันจางใน Space Sweepers หรือเจียงไซหยูในเกมปลาหมึกที่ใช้อาวุธทรงพลังก็ยังเอาหน้าไม่รอด

หากเป็นเรื่องราวการแก้แค้นที่ดำเนินเรื่องโดยผู้หญิง มักจะมี 2-3 ประเด็นหลักที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สามีที่ไม่ดี ถูกรังแกว่าไม่สวย คนในครอบครัวถูกทำร้ายหรือถูกทำร้าย แต่รูปแบบการแก้แค้นมีแนวโน้มที่จะไปในทิศทางเดียว อย่างที่เคยบอกไปว่าล้วนแต่ใช้ความเป็นหญิงหรือเสน่ห์ของหญิงร้าย เพิ่มฉากสวย ๆ ข้ามเพศ แล้วก็ทาปากแดงเพื่อประจาน เช่นซีรีส์ “Birth of a Beauty” ที่นางเอกศัลยกรรมทั้งตัวใน พ.ศ. 2557 ครอบครัวที่มีอดีตสามีหรือโลกของคู่แต่งงาน ดร.จิ ค้นหาทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะแทโอ ถึงขนาดแต่งตัวเซ็กซี่ยั่วเพื่อนสามี

ขนบเดิม ๆ เหล่านี้ทำให้ My Name พากย์ไทย เป็นซีรีส์ที่ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ แม้จะมีเส้นเรื่องที่คุ้นเคย เพราะถึงเรื่องจะอยู่ในกรอบของละครแนวแก้แค้น แต่พอเปลี่ยนตัวนำ เอาผู้หญิงมาเป็นตัวเดินเรื่อง และ ฉีกภาพเดิม ๆ อย่างการแก้แค้นแล้วต้องลดน้ำหนัก โดยให้ฮันโซฮีเพิ่มน้ำหนัก 10 กีโล เพื่อล้างลุคสาวสวยในเรื่องก่อน ๆ ทิ้ง แล้ววางให้ตัวละครจีอูเน้นต่อสู้ด้วยการใช้กำลัง จึงเป็นการเหมือนประกาศว่าตัวละครหญิงสามารถนำหนังแอคชั่นได้ และเรื่องก็ออกมาสนุกไม่แพ้เรื่องที่ผู้ชายเป็นตัวนำ

My Name

จุดเด่นของซีรี่ย์เรื่องนี้

ในเรื่องราว ฉากแอ็คชั่นมักจะอยู่ในรูปแบบของการต่อสู้ระยะประชิด มีพลังในการเพิ่มความดราม่าให้กับซีรีส์ เนื่องจากเป็นการต่อสู้ที่เน้นการสื่ออารมณ์โดยตรงระหว่างตัวละคร แม้ว่านักวิจารณ์บางคนจะบอกว่าน่าเบื่อ แต่ก็มีความสำคัญเป็นพิเศษเมื่อมีผู้หญิงเป็นตัวละครหลัก เป็นการต่อสู้ที่เน้น พลังนี้ เพราะมันทำให้ซีรีส์สตรีนิยมมากขึ้น ซึ่งแตกต่างจากตัวละครหญิงอื่น ๆ ที่ต้องใช้ทักษะ ไหวพริบ ความดราม่า พรสวรรค์ จีวูต่อสู้ได้ดีด้วยพละกำลังและการฝึกอาวุธเช่นเดียวกับผู้ชายในเรื่อง ใช้เทคนิคการโจมตีที่รุนแรงของฝ่ายตรงข้าม เพื่อชดเชยความอ่อนแอของตน

แม้จะยังมีฉากที่เห็นความเสียเปรียบของการเป็นผู้หญิงอยู่บ้าง เช่นฉากการต่อสู้แรก ๆ หรือการที่จีอูโดนเพ่งเล็ง โดนดูถูกเพราะเป็นผู้หญิงคนเดียวในแก๊งอันธพาลใหญ่ ๆ แต่ว่าอีกไม่นานเกินรอจีอูก็ฟาดคำดูถูกและคู่ต่อสู้กระเด็นไปไกล ฉะนั้น My Name เต็มเรื่อง จึงห่างไกลกับการเป็นซีรีส์ที่ขยี้ประเด็นผู้หญิงถูกกระทำ ผู้หญิงเป็นเหยื่อ แต่ทำเกิดความเท่าเทียมอย่างแท้จริงในเรื่อง เพราะดูไปเรื่อย ๆ เราจะไม่เห็นว่าเพศเป็นเรื่องสำคัญ เราเห็นใจจีอูจากอดีตที่โหดร้าย ชะตากรรมที่น่าเศร้า และการต่อสู้แบบทุ่มเททุกอย่างหมดหน้าตักเพื่อเป้าหมาย และรู้แค่เรารักและเอาใจช่วยให้ตัวละครตัวนี้เอาชนะทุกอย่างให้ได้

อย่างไรก็ตาม ซีรีส์เรื่องนี้มีฉากเลิฟซีน ซึ่งดูไม่สอดคล้องกับแนวทางการวางเรื่องที่ไม่เน้นนางเอกขายเนื้อจนทำให้เกิดกระแสถกเถียงว่าควรมีฉากนี้ในเรื่องหรือแนวเรื่องรักที่พลิกฉากบู๊ไม่ประนีประนอมกลายเป็นความธรรมดาที่เสียสมาธิไปโดยปริยาย รักตัวละครหญิง? แต่ถ้าคุณอ่านอีกมุมหนึ่ง โครงเรื่องและฉากรักระหว่างจีวูและพิลโดอาจดำเนินไปตามกิจวัตรดั้งเดิมของละครบู๊ล้างแค้นแบบดั้งเดิม เรามักจะเห็นฉากรักในทุก ๆ เรื่อง และการใช้คนรักเป็นตัวละครทำให้ตัวเอกเกิดคำถามว่าเขาควรถอยหนีการต่อสู้และใช้ชีวิตอย่างสงบสุขดีไหม การฆ่าตัวละครนั้นในนาทีสุดท้ายจะทำให้ตัวละครหลักโกรธถึงขีดสุด

My Name

แนะนำตัวละคร

  • ฮันโซฮี รับบทเป็น ยุนจีอู / โอฮเยจิน ตำรวจสาวขาลุยแผนกอาชญากรรมที่ไม่มีใครขวางเธอได้ โดยเธอพยายามย้ายไปอยู่แผนกปราบปรามยาเสพติดเพื่อสืบเรื่องการฆาตกรรมของพ่อ รวมถึงเป็นสายข่าวให้กับชเวมูจิน เธอเป็นคนพูดน้อยต่อยหนักและไม่ค่อยเข้าสังคม พัคฮีซุน
  • พัคฮีซุน รับบทเป็น ชเวมูจิน ประธานโรงแรมลิเบอร์ที่เบื้องหลังของเขาคือหัวหน้าแก๊งดงชอน องค์กรยาเสพติดรายใหญ่ หลังจากช่วยชีวิตจีอูไว้ เขาก็ได้สร้างตัวตนใหม่ให้เธอและส่งเธอเข้าไปเป็นตำรวจ เขาเป็นหัวหน้าแก๊งที่มีความน่าเกรงขาม น่ากลัวและเลือดเย็น
  • อันโบฮยอน รับบทเป็น จอนพิลโด ตำรวจแผนกปราบปรามยาเสพติดและคู่หูของจีอู เขาไม่ชอบจีอูตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเพราะพฤติกรรมของเธอ แต่เมื่อได้รู้จักเธอยิ่งขึ้นเขาก็พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเสมอ

บทง่าย ดำเนินเรื่องโดนใจ

เนื่องจากเป็นซีรีส์ 8 ตอน ฉันต้องบอกว่ามันเป็นเรื่องเรียบร้อยที่เราอยากจะจบในระยะเวลาอันสั้น ผู้เขียนอ่านมาสองวันแล้ว ไม่ต้องทำงานอื่นแล้ว นั่งดู Han Suxi ความอยากรู้อยากเห็น และแน่นอน อารมณ์ขันและการกระทำที่น่าขนลุก ฉันไม่เห็นว่าสาวแกร่งผสมกับเพลงประกอบที่สามารถบอกเล่าความรู้สึกของแต่ละฉากในแบบที่เข้าถึงได้ทำให้เรื่องราวมีเสน่ห์อีกชั้นหนึ่งแน่นอน เพราะนอกละครมีเพลงให้ฟังมากมายเหลือเกิน ไปหามาฟังกันได้เลยเพราะทุกเพลงจริงๆ

นางเอกไม่ได้แต่งเว่อร์ แต่พลังกายนั้นยากราวกับกินแรดสามตัว โจมตีเฉพาะจุดสำคัญและว่องไวจนผู้คนรู้สึกว่าสไตล์การเฉือนนั้นถูกต้อง สิ่งนี้ทำให้โครงเรื่องสั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าภารกิจการแก้แค้น ชีวิตที่ถูกสาปแช่งและถูกใช้เป็นเพลงแอ็คชั่นที่มีเหตุผลสำหรับนางเอก เรียกว่าแอคชั่นหาเรื่องมาขายนางเอกก็ว่าได้ ขอชม Han Suxi อีกครั้ง นางแสดงแอคชั่นได้ดี มีความเรียบเนียนบนดวงตาโดยไม่ระคายเคืองต่อดวงตา เขาไม่รู้สึกหนักใจกับตัวเลขใดๆ แม้ว่าเธอจะเป็นตัวละครรองลงมาเมื่อเทียบกับเรื่องราวที่กำยำทั้งหมด

ในการเล่น ความเชื่อใจ การหักหลัง และการหลอกลวง ตัวละครมีความเจ็บปวดจากการหาเหตุผลเข้าข้างตนเองเมื่อทำสิ่งต่าง ๆ มีการแบ่งพลังและช่องว่างของตอน มันเป็นช่วงเวลาทางอารมณ์ที่ความสุขของนางเอกทำให้ผู้ชมหัวเราะอย่างมาก กรุณาช่วย อย่าปล่อยให้สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นอย่างที่คุณคิด แต่แล้วผู้กำกับก็ดึงหัวใจของเราออกมา บอกเลยชาวสุขนิยมมาไกล เพราะเรื่องนี้ให้แต่ความสุข คือ ตัวร้ายตายแบบเด็กๆ แต่ตัวเอก… ไม่อยากพูดเลย มันเศร้ามาก

รีวิวหลังดูซีรีส์ My Name (2021)

เรื่องราวของฮันโซฮีเริ่มต้นด้วยละครเกี่ยวกับชีวิตของนางเอก เพราะพ่อของเธอเป็นนักเลง มีหมายจับ ทำให้ตำรวจตามจับเธอจนเธอต้องออกจากโรงเรียนหลังสูญเสียพ่อไปต่อหน้าต่อตา จีวูโทษตัวเองและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหาตัวฆาตกร เพียงลำพังเธอเกือบเอาชีวิตตัวเองไปโดนโกง แต่เธอได้รับการช่วยเหลือจาก Cui Wuzhen หัวหน้าแก๊ง Dongchuan และเขาพาเธอไปที่องค์กร ให้เธอเป็นบทเรียนตอกย้ำตัวเอง

รวมทั้งโทรหามูจินจนเขาเชื่อใจเธอมาก ขณะเดียวกัน เธอร่วมมือกับควาน เพียร์โด คู่หูใหม่ของเธอที่ไม่ชอบหน้าเธอ แต่เมื่อได้รู้จักกันก็กลายเป็นคู่หูที่ดี การติดตามเบาะแสต่างๆ ทำให้นางเอกไม่แน่ใจว่าควรไว้ใจฝ่ายไหน ระหว่างตำรวจกับแก๊ง Dongchuan เธอจะหาฆาตกรได้หรือไม่? คุณสามารถซ่อนตัวเองได้นานแค่ไหน? มาตื่นเต้นไปพร้อมกัน

เรื่องราวเป็นซีรีส์แอคชั่นสุดอลังการพระเอกบู๊แทบทุกตอนและตบแรง ละครของ Han Su Hee นั้นเข้มข้นและแตกต่างจากเรื่องก่อนๆ เช่น บทของ Yu Nabi ในละครเรื่อง “Neutheless, This Love Cannot Be Forbidden” การต่อสู้ทำได้ดี มีร่างกายแข็งแรงพอที่จะต่อกรกับผู้ชายได้ ส่วนอารมณ์ดราม่า ดราม่าเยอะ หมั่นไส้พระเอกนางเอก ส่วนตัวไม่คิดว่าเนื้อเรื่องเดายาก พอจะเดาได้ว่าใครคือคนร้าย ชอบที่ซีรี่ย์นี้มีฉากแอคชั่นตลกๆและแนวต่อสู้ของนางเอก รวมเรื่องราวดั้งเดิมของแก๊งอาชญากรและตำรวจ

ใครที่ชอบสายแอ็กชัน-อาชญากรรมต้องไม่พลาดเรื่องนี้ โดยเฉพาะแฟนคลับของสาวฮันโซฮีที่จะได้ดูเธอเปลี่ยนจากแนวโรแมนติกมาบู๊แบบจัดเต็ม ไม่ห่วงสวย (แต่ก็ยังสวยอยู่ดี) เรียกว่าเป็นผู้หญิงหนึ่งเดียวในเรื่องจริง ๆ แถมเคมีกับอันโบฮยอนก็ดีมาก ๆ เลยด้วย เอาเป็นว่ากดเข้าไปที่ Netflix เลยจ้า ซีรีส์มีทั้งหมดด้วยกัน 8 ตอนเท่านั้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *