รีวิวหนังnetflix Ghostbuster
เรื่องราวของหนังจะเริ่มต้นที่ใครคนหนึ่งในทีมบริษัทกำจัดผีเดิมเสีียชีวิตและทิ้งมรดกไว้ให้แก่ คัลลี (รับบทโดย แครี คูน Carrie Coon) คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว เทรเวอร์ (รับบทโดยฟินน์ วูล์ฟฮาร์ด Finn Wolfhard) ลูกชายคนโต ดูหนังฟรี และ ฟีบี (รับบทโดย แม็กเคนนา เกรซ Mckenna Grace) ลูกสาวคนเล็กที่คลั่งไคล้วิทยาศาสตร์ ดูหนังออนไลน์ จนพวกเขาต้องเดินทางไปยังโอคลาโฺฮมาเพื่อพบว่ามรดกที่ได้คือบ้านเก่า ๆ และฟาร์มที่มีแต่ดินไร้พืชผลใด ๆ ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่มีโฆษณา
เรื่องราวในภาคนี้เป็นเกี่ยวกับครอบครัวของคาลลี่และลูกทั้งสองคน รีวิวหนังnetflix Ghostbuster
คือพี่ชายคนโตทรีเวอร์และน้องสาวคนเล็กฟีบี้ที่มาพร้อมกับความฉลาดเข้าขั้นถึงอัจฉริยะเลยทีเดียว ชื่นชอบวิทยาศาสตร์และการประดิษฐ์วันหนึ่งครอบครัวของคาลลี่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเงินจนไม่สามารถจ่ายค่าบ้านได้แล้วแต่ในความโชคร้ายยังมีโชคดีอยู่เมื่อพ่อของคาลลี่ได้เสียชีวิตและได้ทิ้งบ้านไว้ให้ครอบครัวของคาลลี่
จึงได้เดินทางไปที่บ้านหลังนั้นแต่ภายในบ้านกลับไม่ได้สวยงามเหมือนกับคาลลี่ตั้งใจไว้กลับกันเป็นเพียงบ้านเก่าๆ โทรมๆ และเต็มไปด้วยอุปกรณ์แปลกๆ กองหนังสือ และรอบบ้านมีแต่ทุ่งหญ้าว่างเปล่า เมื่อได้เข้าอยู่ในบ้านของคุณตาแล้วฟีปี้ได้เห็นอุปกรณ์แปลกๆ ตกอยู่และมีเหตุการณ์แปลกเกิดขึ้นกับฟีปี้ที่อยู่ประตูเปิดเองได้ หมากรุกที่ตั้งไว้สามารถขยับและเดินเองได้จนฟีปี้ที่อยากจะพิสูจน์ว่ามันคืออะไร
ก็ได้หยิบอุปกรณ์นั้นและไว้มันนำทางไปจนไปเจอเข้ากับห้องลับของคุณตาที่เต็มไปเครื่องประดิษฐ์ทางฟิสิกส์และสิ่งประดิษฐ์ที่คุณตาทำไว้จนมั่นว่าสิ่งที่นำทางมายังห้องนี้ก็คือคุณตาของเขานั้นซึ่งจุดนี้เป็นพลิกเมื่อฟีปี้ได้รู้ความลับบางอย่างก็คือภารกิจปราบผีที่คุณตาได้ทำไว้แต่ยังทำไม่สำเร็จและเพื่อช่วยคุณแม่คาลลี่ที่โดนผีเข้าสิงทำให้ฟีปี้ต้องกำจัดผีอย่างโกเซอร์ให้ได้ภารกิจปราบผีจึงเริ่มต้นขึ้น
ในปี 2022 นี้ เราเปิดใจดู Ghostbusters: Afterlife เพราะตัวละครรุ่นเด็กอย่าง Finn Wolfhard (จาก Stranger Things และ It) ที่เติบโตมาอย่างดี กับเด็กหญิงมหัศจรรย์ Mckenna Grace (จาก Gifted, I, Tonya, The Haunting of Hill House) ล้วน ๆ ซึ่งถือว่าเป็นการแคสต์ที่ smart choice เพราะตีตลาดคนรุ่นใหม่ได้อย่างดี
อีกอย่างหนึ่ง ที่ทำให้ Ghostbusters: Afterlife มีความน่าสนใจก็คือ
มันเป็นหนังครอบครัวที่สร้างโดยครอบครัว กล่าวคือ ภาคนี้กำกับโดย Jason Reitman (จาก Juno, Up in the Air, Tully) ลูกชายแท้ ๆ ของ Ivan Reitman ผู้กำกับสองภาคแรกในตำนานนี่เอง ที่สำคัญ Jason Reitman ทำให้แฟรนไชส์ของพ่อ sexist และ racist น้อยลงได้จริง ๆ โดยใน Ghostbusters: Afterlife เขาให้ตัวหลักคือครอบครัวหนึ่ง ซึ่งเป็นทายาทของ หนึ่งในสมาชิก Ghostbusters รุ่นบุกเบิก
ครอบครัวของ Callie (โดย Carrie Coon) คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวกำลังเจอสถานการณ์ที่ยากลำบากในการใช้ชีวิต เพราะเรื่องของสภาพคล่องทางการเงิน และยังต้องรับผิดชอบชีวิตลูกทั้งสองคนของเธอ Trevor (โดย Finn Wolfhard) และ Phoebe (โดย Mckenna Grace) ซึ่งสถานการณ์ของครอบครัวถังแตกครอบครัวนี้ต้องบอกว่าไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ แต่ก็มีความหวังเล็ก ๆ โดยที่คุณปู่ของเด็ก ๆ ทั้งสองเสียชีวิตลง เพราะ Callie มีความคาดหวังว่า พ่อ ของเธอต้องมีทรัพย์สมบัติอะไรเหลือไว้ให้เธอบ้าง
ครอบครัวนี้จึงเริ่มที่จะเดินทางออกไปใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างจังหวัดในบ้านของบรรพบุรุษที่เพิ่งจะเสียชีวิตไป ซึ่งว่ากันว่าบ้านนี้เป็นบ้านที่น่ากลัวที่สุดในย่าน ตั้งโดดเด่นอยู่ในฟาร์มอันกว้างขวาง จนกระทั่ง Phoebe ได้ไปเจอบางสิ่งบางอย่างในบ้านเข้า และเธอได้เล่าสิ่งนั้นให้กับ Podcast (โดย Logan Kim) เพื่อนของเธอที่โรงเรียน รวมทั้งคุณครูที่เก่งกาจด้านฟิสิกส์ Grooberson (โดย Paul Rudd) การผจญภัยของเรื่องราวสุดลึกลับจึงเกิดขึ้น !
นักแสดงของเรื่องนี้ที่โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้น Phoebe หรือ Mckenna Grace
ที่เป็นเด็กคลั่งฟิสิกส์ คนหนึ่งในเรื่อง ซึ่งเรียกว่ามันเป็นการได้เห็นนักแสดงเด็กเก่ง ๆ จากเรื่องนี้เลยล่ะครับ ที่สามารถรับบทนำของเรื่องได้ค่อนข้างดีอย่างไม่ต้องสงสัย และด้วยบทของภาพยนตร์ด้วยที่มันจะเป็นโทนย้อนยุคหน่อย ๆ คือมันมีความตลกแบบคลาสสิก แบบฉบับของต้นฉบับของหนังสือการ์ตูน
หนึ่งในความยากประการสำคัญในการทำหนังอย่าง ‘Ghostbuster’ คงหนีไม่พ้นชื่อเสียงและฐานแฟนคลับที่หนังได้สร้างมาต่อเนื่องเกือบ 4 ทศวรรษ และยิ่งมีภาพจำหลาย ๆ อย่างเช่นชุดปฏิบัติการของสมาชิกบริษัทกำจัดผี รถเอ็คโตวัน กับดักผี กระทั่งผีต่าง ๆ ที่ปรากฎในหนังภาคแรกโดยเฉพาะผีสไลม์และมาร์ชเมลโลแมน ที่เห็นปุ๊บจะต้องนึกถึงบริษัทกำจัดผีปั๊บ
แต่กระนั้นก็ไม่น่าเชื่อว่าเจสัน ไรต์แมนกลับสามารถผสมผสานระหว่างไอคอนจากหนังต้นฉบับให้มาอยู่ในธีมเรื่องที่เอาดราม่าครอบครัวที่เป็นลายเซ็นของเขาได้อย่างลงตัว โดยเราจะเห็นตัวละครที่มีความสัมพันธ์ในครอบครัววิ่นแหว่งอย่างคัลลีที่มีปมทั้งสามีและพ่อแท้ ๆ ทิ้งไปจนเธอไม่อาจเข้าใจและเป็นห่วงฟีบีลูกสาวคลั่งวิทยาศาสตร์ของเธอที่เดินตามรอยคุณตาเป๊ะแทบทุกกระเบียดนิ้วเพราะกลัวจะเข้ากับเพื่อนไม่ได้ก็สามารถสานต่อเรื่องราวกับหนังต้นฉบับได้อย่างเนียนสนิทโดยไม่เสียความเป็นตัวเอง
และเมื่อเหตุการณ์พาตัวละครมาเจอกับปีศาจคู่ปรับเก่าของเหล่าบริษัทกำจัดผีภาคแรกและกลายเป็นการปลดล็อกความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ครบถ้วนทั้งความเป็นหนังไซไฟตลกและยังมีดราม่าครอบครัวที่เวิร์กมาก ๆ ก็ยิ่งทำให้ ‘Ghostbuster Afterlife’ อยู่เหนือการเป็นเพียงหนังแฟนเซอร์วิสธรรมดา ๆ เรื่องหนึ่ง
และถ้าหาก ‘Ghostbuster’ ฉบับปี 2016 เคยมีปัญหาเรื่องแฟน ๆ รีวิวหนังnetflix Ghostbuster
หนังต้นฉบับสาบส่งที่หนังพยายามจะใส่ความเป็นสาวห่ามแบบพอล ฟีกจนเกินงาม ในหนังเรื่องนี้ก็แก้ปัญหาด้วยการรีบูตเครื่องให้คนที่รับมรดกต่อเป็นลูกหลานของสมาชิกเก่าได้อย่างชาญฉลาด โดยได้การตีความของแม็กเคนนา เกรซ นักแสดงดาวรุ่งจากหนัง ‘I,Tonya’ ก็ทำให้ตัวละครฟีบีเต็มไปด้วยเสน่ห์ชวนมองและบทก็ยังเก็บรายละเอียดมุกแนววิทยาศาสตร์เหมือนในหนังต้นฉบับมาให้เธอถ่ายทอดความเนิร์ดได้อย่างน่ารักน่าชังอีกด้วย
เรื่องนี้ยังคงคอนเซปต์การปราบผีเหมือนเดิมแต่ที่มันเพิ่มเติมเข้ามาคือกราฟิก เสียง ความลุ้นการเข้าใจช่วยว่าเด็กผู้หญิงตัวเล็กจะสามารถจับผีร้ายอย่างโกเซอร์ที่กำลังจะกลับมาเพื่อทวงคืนบ้านเมืองในยุคปัจจุบันคือ เนื้อเรื่องดำเนินได้ดีค่อยๆ ปูเรื่องมามีการพูดถึงเรื่องเก่าย้อนให้ดูอดีตก่อนในตอนที่คุณตาวางแผนจะจับโกเซอร์แต่ด้วยเพียงคนเดียวไม่สามารถทำให้สำเร็จได้จนทำให้สิ่งที่คาดเดาเอาไว้ว่าในปี2021โกเซอร์จะฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งจนเมื่อเวลาผ่านไปถึงปี2021ครอบครัวของคาลลี่ก็ได้สานต่อภารกิจปราบโกเซอร์คนที่สานต่อคือน้องฟีปี้เด็กสาวตัวเล็กที่มาพร้อมกับความฉลาดและความกล้าหาญและพร้อมจะสู้เพื่อช่วยให้โลกอยู่ได้อย่างสงบสุข
และด้วยความที่รักที่คุณตาที่เสียไปแล้วจึงต้องสานต่อภารกิจนี้ให้สำเร็จด้วยความร่วมมือกันของพี่ชายทรีเวอร์ ลักกี้ เพื่อนคนแรกป๊อปคาส คุณแม่คนสวยคาลลี่และอดีตเพื่อร่วมทีมของคุณตาทั้งสามคน ทำให้การปราบผีโกเซอร์ในครั้งนี้สำเร็จได้ด้วยดีแต่กว่าจะจับได้ก็ลุ้นมากกว่าจะจับได้เพราะโกเซอร์และบริวานมันก็เก่งเอาเรื่องอยู่เหมือนกันคือสู้กันมันส์เลยลุ้นตื่นเต้นดี และที่ต้องชมนอกเหนือจากตัวนักแสดงแล้วก็ต้องชมกราฟิกซะหน่อยทำออกได้สมจริงมากดูแบบตื่นเต้น แล้วก็น่ากลัวอะตกใจมากเวลาที่โผล่ออกมาแอบบสดุ้งเหมือนกัน ตอนที่โกเซอร์เป็นหมอกควันอะแล้วอยู่ก็กลายร่างเป็นโกเซอร์แบบรางๆ
แล้วก็แทงคุณตาอะคือแบบโหแบบหลอนเหมือนกันนะ แล้วอีกอันคือน่ากลัวไม่แพ้กันแล้วก็ตัวซูที่บริวารของโกเซอร์อะคือแบบตามันกลัวมากสีแดงๆ มาเลยหน้ามันก็แบบจะเป็นสุนัขหรือควายไม่แน่ใจมันผสมๆ กันเวลาโผล่มาแต่ละทีก็ชวนให้สะดุ้งอยู่เหมือนกันเป็นหนังที่ดูแล้วครบรสดี ลุ้นตื่นเต้น ขายขำ ดราม่า แฟนตาซี บอกได้คำเดียวว่าสนุกต้องไปดูเองและจะได้รู้ว่ามันดีจริงหรือเปล่า เป็นเรื่องเบาๆ ไม่หนักมากดูสบายๆ
นอกจากนี้หนังยังได้นักแสดงเด็กอีกคนที่เปล่งประกายมาก ๆ คือ โลแกน คิม (Logan Kim)
เจ้าหนูชาวเอเซียที่มารับบทเป็น พอดแคสต์ เด็กเนิร์ดที่ชอบทำพอดแคสต์ที่ขยันขโมยซีนจนดาราดังอย่าง ฟินน์ วูล์ฟฮาร์ด ถูกกลบรัศมีไปไม่น้อยเลยทีเดียว และหนังยังได้ เซเลสต์ โอ คอนเนอร์ (Celeste O’ Connor) สาวผิวสีคนสวยมารับบทลัคกี สาวสวยที่เทรเวอร์หมายปองได้อย่างมีเสน่ห์อีกด้วย แต่ก็ใช่ว่าเจสัน ไรต์แมนจะทิ้งการบูชาครูหนังคุณพ่อตัวเองเสียทีเดียว
ตรงกันข้ามเขากลับนำภาพจำและรวมถึงประวัติศาสตร์หลายอย่างที่เกี่ยวกับพ่อของเขามาแอบใส่ในหนังได้อย่างแนบเนียน โดยนอกจากรถเอ็กโตวัน อุปกรณ์จับผีหรือชุดบริษัทกำจัดผีอันเป็นไอคอนแล้ว ไรต์แมนยังแอบใส่โปรแกรมหนัง ‘Cannibal Girls’ หนังสยองขวัญปี 1973 ของคุณพ่อให้ปรากฎอยู่หน้าฉากหลังที่เป็นโรงหนังอีกด้วย
หรือกระทั่งรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับตัวละครของ ฮาโรลด์ รามิส อย่างอีกอน สแปงเลอร์อย่างการนำเห็ดและราในโหลแก้วเป็นพรอปประกอบฉากก็ยังแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดและเมื่อตัวอักษรบนหน้าจอขึ้น ‘For Harold’ ตอนท้ายมันก็เมกเซนส์และแสดงให้เห็นเลยว่าหัวใจของหนังเรื่องนี้ถูกมอบเป็นเกียรติให้แก่ฮาโรลด์ รามิสอีกหนึ่งนักแสดงและคนเขียนบท ‘Ghostbuster’ ได้อย่างสมศักดิ์ศรี
ดาวเด่นของเรื่องคือ Phoebe (Mckenna Grace) เด็กหญิงสายเนิร์ด ไร้สังคม ที่ฉลาดและเก่งวิทย์ตามด้วย Callie (Carrie Coon จาก Gone Girl) แม่ของเธอ ซึ่งเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ติดหนี้ค่าเช่า จึงต้องพาลูก ๆ เดินทางไปบ้านนอกเพื่อรับมรดกหลังพ่อเสียชีวิต เธอมีปมเรื่องพ่อทอดทิ้ง จึงไม่ยอมบอกลูก ๆ มาก่อนว่าคุณตาของพวกเขาคือ Dr. Egon Spengler (Harold Ramis ผู้ล่วงลับไปเมื่อปี 2014) แห่ง Ghostbusters