รีวิวหนังnetflix The Next 365 Days
ภาพยนตร์ภาคต่อสุดแซ่บที่เสิร์ฟความเร่าร้อนชนิดถึงพริกถึงขิงเอาไว้ในภาคแรก 365 DNI และเบาไฟลงมาหลายเบอร์ในภาคสอง 365 Days: This Day แถมเลาร่ายังเกือบจะเป็นนางเอก MV อีกต่างหาก ดูหนังออนไลน์ แต่การกลับมาคราวนี้เลาร่าได้แปลงร่างเป็นผู้หญิงหิวบ่อยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วจ้ะ ชนิดที่ตื่นก็หิว หลับก็หิว ว่างั้นเถอะ ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่มีโฆษณา
ใครที่เป็นแฟนของหนังภาคแรกหรือชื่นชอบหนังแนวโรแมนติกเร่าร้อนก็ติดตามต่อกันได้
ในภาคนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวรักสามเส้า พร้อมกับเคมีของนักแสดงทั้งสามที่เข้ากันและยังคงร้อนแรง ส่วนข้อติยังคงเป็นในส่วนของการประโคมเพลงประกอบเข้ามาไม่ต่างจากภาคที่แล้ว แต่โดยรวมแล้วถือว่าดูได้เรื่อยๆ มารับชมภาคที่สามกันต่อได้ทาง Netflix นะคะ ส่วนจะมีภาคต่อหรือไม่นั้นยังไม่มีการคอนเฟิร์มอย่างเป็นทางการออกมา สุดท้ายแล้วขอยกคำพูดของมัสซิโมที่ว่า ดูหนังฟรี “ถ้าเรารักอะไรสักอย่างจริงๆ…แค่ปล่อยมันไป ถ้ามันกลับมาหาเรา แปลว่ามันจะเป็นของเราตลอดไป ถ้ามันไม่กลับมา แปลว่ายังไงมันก็ไม่ใช่ของเรา”
ในขณะที่เนื้อเรื่องส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ความแซ่บนัวของเลาร่าและนาโช ให้เห็นความแตกต่างของผู้ชายสองคนอย่างชัดเจน ประมาณแบดบอยปะทะเทพบุตรก็ไม่ปาน ว่ากันแบบนี้ใครที่คาดหวังว่าจะได้เห็นร่างกายอันเปลือยเปล่าของพ่อมาเฟียขาโหดอย่างมัสซิโมอย่างที่เห็นในภาคแรก ก็ขออภัยด้วยที่ต้องพบกับความผิดหวัง แต่จะได้รับการปลอบใจไปที่เรือนร่างล่อนจ้อนของนาโชเป็นสิ่งทดแทน สองคนจะกอดกระหวัดรัดรึงกันนานและบ่อย ทั้งในฝันและได้เสียเป็นเมียผัวสมใจแม่นางเอกของเราในที่สุดแบบวาบหวาม อ่อนโยนจนตาเหลือกกันไปข้าง
ต่อเนื่องกับคาวมเย้ายวนที่แทบจะหมดความน่าถวิลหา(ไปแล้วมั้ง) กับหนังโรแมนซ์อีโรติกยุคใหม่สุดบันลือโลกใน “The Next 365 Days” ที่กลับมาสานต่อเรื่องราวครบไตรภาคในหนังภาคล่าสุดนี้ ที่ไม่น่าเชื่อว่าหนังน้ำเน่าทำนองนี้จะกลายเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ที่สำคัญของวงการหนังในปัจจุบัน แต่เมื่อกล้าทำออกมาแล้ว คนดูก็กล้าดูต่อ แม้ว่าจะรู้สึกกล้ำกลืนฝืนทนไม่น้อย หลังจากภาคที่แล้วทำเอาไว้เจ็บแสบ…แบบไม่น้อยหน้ากันเลย
รีวิวหนังnetflix The Next 365 Days เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่เปราะปราง
บนพื้นฐานของความเชื่อใจและความหึงหวงที่ยังคงเป็นปัญหาบั่นทอนระหว่าง เลาร่า กับ มัสซิโม โดยที่ นาโช ที่กลายเป็นผู้ดึงดัน ก็กำลังจ้องจะสะบั้นความรักของทั้งคู่ลงเสีย ก่อนกำเนิดเป็นปมแห่งความรักสามเส้าที่ไม่รู้ว่าจะบทสรุปแล้วจะลงเอ่ยในทิศทางใดกันแน่?
คงไม่ต้องเกริ่นอะไรกันมากอีกแล้ว เพราะภาคนี้ก็ยังคงได้ทีมนักแสดงและทีมผู้สร้างชุดเดิม เพราะเป็นการถ่ายทำต่อเนื่องมาจากภาคที่แล้วนั่นเอง แน่นอนว่าหนังเรื่องนี้แทบจะไม่เหลือแก่นสารอะไรอีกแล้ว เพราะหนังแทบจะไม่เคยมีอะไรจุดนั้นมาตั้งแต่เริ่มต้น โดยเห็นได้ชัดว่าภาคนี้พยายามอย่างหนักที่เพิ่มความเข้มข้นให้กับเรื่องหาของหนัง แต่ว่าโครงเรื่องที่อ่อนมาก ๆ มาตั้งแต่เริ่ม…แทบจะทำอะไรไม่ได้แล้ว
ภาคนี้ผูกปมเข้าสู่ประเด็นรักสามเส้าเข้าไปอย่างเด่นชัด แต่เป็นการใส่เข้าไปแบบทื่อ ๆ บนพื้นฐานของความน้ำเน่าตามท้องเรื่อง และอีกเช่นเคย หนังเรื่องนี้มีเนื้อหาอยู่แค่เพียงหยิบมือเดียว แต่ทำมาร้อยเรียงเป็นหนังเกือบ 2 ชั่วโมง ที่เต็มไปด้วยน้ำไร้รสชาติที่ยัดเยียดให้กับคนดูแบบอิ่มแทบจะพุ่งและสำลักออกมา ทั้งนี้จริง ๆ ทำออกมาเป็นหนังสั้น 30 นาทีจบยังได้เลยด้วยซ้ำ
การเล่าเรื่องของหนังก็ยังมีโทนเดิมกับภาคที่แล้ว
มีความเป็นหนังผสมมิวสิควิดีโอไปเรื่อย ๆ แต่ยังดีขึ้นมานิดหน่อยตรงที่ภาคนี้มีเนื้อหาแทรกกับเรื่องราวแทรกเข้าไปบ้าง ไม่ใช่ว่าเอะอะอะไรก็เปิดเพลง แล้วแพนกล้องทำภาพสโลโมชั่นไปมากับภาพวิวเหมือนกับภาคก่อนทำเอาไว้ แต่อย่างไรก็ตาม The Next 365 Days ก็ยังเป็นเหมือนก๋วยเตี๋ยวชามนึงที่เต็มไปด้วยน้ำซุป ยังให้เครื่องกับเส้นมาไม่สมดุลเท่าไหร่
ในครั้งนี้ความสัมพันธ์ของลอร่ากับมัสซิโมอาจไม่ได้ร้อนแรงเท่าภาคก่อน ๆ ที่สร้างความตื่นเต้นให้ผู้ชมในทุกฉาก แต่ผู้ชมจะได้ร่วมลุ้นให้ทั้งคู่ผ่านพ้นวิกฤติความไว้วางใจได้ใน The Next 365 Days ส่วนนาโช (Nacho) รับบทโดย ซิโมเน ซูซินนา (Simone Susinna) ที่เคยร่วมแสดงใน 365 Days: This Day ก็ได้ร่วมกลับเข้ามาสร้างความแตกแยกให้กับความสัมพันธ์ของทั้งคู่อีกครั้งใน The Next 365 Days อีก 365 วัน สำหรับ The Next 365 Days แม้จะเป็นภาคต่อลำดับที่ 3 ของหนังตระกูล 365 Days แต่ก็ยังคงได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากชาวเน็ตเพียงเพราะเป็นหนังเรตสิบแปดบวกเท่านั้นในฐานะของหนังที่มีภาคต่อแล้ว การดำเนินเรื่องของ The Next 365 Days กลับไม่มีความต่อเนื่องและแปลกใหม่เพื่อสร้างจุดเด่นของแต่ละภาคเลย
ภาคที่แล้วผู้เขียนขอสารภาพว่าดูไปก็สัปหงกไป เพราะ MV มาบ่อยเหลือเกิน นึกอะไรไม่ออกก็เล่าเรื่องแบบเริงร่า หัวเราะ ยิ้ม ทำมิวสิกไปเรื่อยเปื่อย เรียกว่าเป็นการจับยัดให้ได้เวลาไปงั้น ๆ ซึ่งภาคนี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีแบบนั้นค่ะ เรายังคงเห็นฉากที่ไม่จำเป็นอยู่มากมาย จนสามารถกดข้ามไปบ้างก็ได้เพราะไม่มีผลกับเนื้อหาส่วนใดเลย แต่ใด ๆ ก็ตามภาคนี้ถือว่าทำได้ดีกว่าภาคที่แล้วอย่างยกระดับในบางฉาก โดยเฉพาะฉากอีโรติกที่ผู้เขียนยกให้เป็นฉากที่ทำได้สะอาดตา กว่าภาคอื่น ๆ มีความนุ่มนวลชวนดูและเห็นถึงการใส่ใจที่จะถ่ายทอดและสื่ออารมณ์ได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด
เรียกว่ามีการพัฒนาในด้านดีของการถ่ายทำ มุมกล้องและองค์ประกอบภาพ
ซึ่งถือว่าเป็นส่วนดีส่วนเดียวที่มองเห็นจากส่วนอื่น ๆ ที่ติดลบอย่างสม่ำเสมอ ทั้งบทที่ไม่มีความสมเหตุสมผล การตัดต่อที่ขาดความเชื่อมโยงและดึงอารมณ์ร่วมไม่เคยได้ เรียกว่าเสมอต้นเสมอปลายจนชาชิน แต่สิ่งที่ทำให้ประหลาดใจมากกว่าใด ๆ ทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วนั้นคือฉากจบที่อิหยังวะ คำถามต่าง ๆ เริ่มผุดขึ้นมาในความคิดทันทีว่า จบแบบนี้ใจคอจะทำต่อภาค 4 อีกเหรอจ๊ะ พ่อคุณพ่อทูนหัวของบ่าว
หลังจากที่เลาร่ารอดจากการถูกยิง ทั้งสามีและเพื่อนสนิทก็ขอให้เธอพักผ่อนมากๆ เพื่อทำการรักษาตัวเอง เลาร่ารู้สึกเบื่อหน่ายและพยายามใกล้ชิดกับมัสซิโมเหมือนที่ผ่านมา หลังผ่านพ้นเรื่องราวโศกนาฏกรรมมาแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างเลาร่ากับมัสซิโมก็ยังคงดำเนินไป ทว่าความรู้สึกที่สะสมมาตลอดส่งผลกระทบให้พวกเขาห่างเหินกันมากขึ้น ทั้งคู่ต้องหันมาทบทวนความต้องการของตัวเองอย่างจริงจัง
ในขณะเดียวกันเลาร่าก็เริ่มรู้ตัวว่าความรู้สึกของเธอที่มีต่อนาโชนั้นเรียกว่า ‘ตกหลุมรัก’ นาโชเองก็พยายามที่จะเข้ามาเพื่อทำให้เธอรู้ใจตัวเอง ความสัมพันธ์อันอึดอัดและคลุมเครือระหว่างพวกเขา ทำให้คนดูอย่างเราสามารถเดาได้ในระดับหนึ่งว่าสุดท้ายแล้วเลาร่าจะเลือกใคร ภาคนี้จะเน้นไปที่ตัวละครของนางเอกเป็นหลัก เธอยังคงสับสน ดื้อรั้น และทำตัวเป็นศูนย์กลางของทุกอย่าง จนเราแอบคิดว่าเรื่องราวที่ผ่านมาไม่ได้ช่วยสอนอะไรให้กับเธอเลย เป็นคนรอบข้างของเธอทั้งเพื่อนสนิทกับครอบครัวเสียอีกที่เป็นคนเตือนให้เธอเติบโตขึ้น ทำให้ความรู้สึกของเราที่มีต่อเลาร่านั้นค่อนข้างจะติดลบ แม้เรื่องเหมือนจะให้เหตุผลสนับสนุนทั้งเรื่องการสูญเสียลูกหรือการเสี่ยงอันตรายที่เธอต้องเผชิญ แต่ก็ไม่ทำให้เรารู้สึกเห็นใจและเห็นด้วยกับการกระทำบางอย่างของเธอได้
นขณะที่ดีกรีความแซ่บของหนังภาคนี้ที่เผื่อใครอยากรู้ บอกตรง ๆ ตามความรู้สึกเลยว่า เพิ่มความแซ่บขึ้นจากภาคที่แล้วขึ้นมาอยู่บ้าง มีฉาบวาบหวิวและฉาก 18+ แทรกเข้ามามากขึ้น แต่ก็ยังคงเป็นการใส่เข้ามาด้วยฟีลแห้ง ๆ จืด ๆ ที่กลายเป็นความพยายาม ไม่ว่าจะเป็นพยายามยั่ว พยายามเล้าโลม พยายามดื่มด่ำ ทำให้ทุก ๆ อย่างในซีนเล่านี้เป็นสิ่งที่พยายามมากเกินไป มากจนอาจทำให้คนดูเคลิ้มตามจนเผลอหลับไปได้เลย
ด้วยการที่หนังพยายามกลับไปขายแนวอีโรติกและวาบหวิวแบบเดิม ๆ รีวิวหนังnetflix The Next 365 Days
นั่นยิ่งส่งผลกระทบต่อเนื้อหาของหนัง เพราะเอาเข้าจริง ๆ พวกไดอะล็อกและบทต่าง ๆ ของ The Next 365 Days แทบจะไม่ได้ดึงดูดใจคนดูสักเท่าไหร่แล้ว ไม่ว่าจะซีนอารมณ์หรือซีนดราม่าใด ๆ กลับไม่ทำให้รู้สึกคล้อยตามอะไรอีก เพราะองค์ประกอบทุกอย่างกลายเป็นแนวราบแบนไปหมดแล้ว
ผู้อ่านจะเห็นได้ตั้งแต่ใน 365 Days: This Day หรือหนัง 365 Dni ภาค 2 ที่เนื้อเรื่องจะมีแต่ความเป็นน้ำเน่าตามประสาหนังรักโรแมนติกที่ขายได้ง่าย ๆ ตามท้องตลอด ทำให้เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากเหล่าคอหนังเมื่อได้ดู The Next 365 Days ในวันแรก 19 สิงหาในเน็ตฟลิกซ์ว่ามีแต่ความจำเจ แต่โชคดีหน่อยที่มีการพัฒนาจากภาคกก่อนที่เติมเนื้อหาในส่วนอื่น ๆ มาบ้าง มิใช่เพียงการตัดภาพแบบหนังเรต R เท่านั้น
ทั้งนี้ต้องบอกผู้อ่านรีวิวก่อนว่า อีก 365 วัน (The Next 365 Days) เป็นหนังเรต 18+ ที่มีฉากวาบหวิวเป็นจำนวนมาก หากใครไม่ชื่นชอบควรปล่อยผ่านหนังเรื่องนี้ไปได้เลยครับ คงพลาดไม่ได้กับฉากเรื่องอย่างว่าบนเตียง นักแสดงหลักชาย-หญิงทั้งคู่ต่างก็มีเคมีที่เข้ากัน ทำให้การเข้าฉากวาบหวิวในแต่ละครั้งสร้างความตื่นเต้นให้ได้มากเลยทีเดียว แต่เมื่อมองในภาพรวมเกี่ยวกับเนื้อเรื่องก็ยังคงมีแต่ความซ้ำซากจำเจออยู่ตลอดทั้งเรื่อง The Next 365 Days หากทางทีมงานอยากจะสร้างหนังภาคต่อลำดับที่ 4 ของ 365 วันก็ควรจะพัฒนาบทให้ดียิ่งกว่านี้อีกมากเลยทีเดียว