รีวิวหนังnetflix Svaha : The Sixth Finger สวาหะ
เป็นหนังใน genre ลุ้นระทึกลึกลับ มีปมปริศนาให้ขบคิด ด้วยพลอตที่แหวกแนวน่าสนใจดีสำหรับความเป็นงานเกาหลี หยิบบางมุมของปรัชญาทางศาสนาและลัทธิความเชื่อหลายๆอย่างมา ดูหนังออนไลน์ ผสมผสานดัดแปลงเสริมบันเทิงได้แยบคายดี การสืบสวนที่ชวนติดตามจากสองเส้นเรื่องซึ่งจับมาผูกโยงกัน คือภัยสังคมจากศรัทธาลวงโลก และภัยอาชญากรรมที่คร่าชีวิต ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่มีโฆษณา
ความน่าสนใจที่สะดุดผู้เขียนตั้งแต่วันแรกของการโปรโมตหนัง
คือชื่อเรื่อง อ่านปุ๊บก็สัมผัสได้ถึงความพิกลลี้ลับ มีกลิ่นอายมนต์ขลัง ‘หกนิ้ว’ อาจสื่อถึงความเป็นสิ่งแปลกหาได้ยาก และหลังจากไปค้นคว้ามา ‘สวาหะ’ เป็นคำมาจากภาษาสันสกฤต ที่มีรากศัพท์แปลตรงตัวได้ว่า ‘พูดดี’ ถูกนำมาใช้ในความหมายของการทักทายหรือแสดงความยินดีต้อนรับ ถูกนำไปใช้เอ่ยเป็นคำสร้อยประกอบพิธีกรรมบูชาไฟศักดิ์สิทธิ์ตามคัมภีร์พระเวท ดูหนังฟรี และกลายมาเป็นคำลงท้ายในบทสวดมนต์ มีผู้เชี่ยวชาญพุทธศึกษาเสนอไว้ว่า สวาหะบ่งชี้ความเป็นองค์เทพเพศหญิง เมื่อชมจบเรื่องก็ จะถึงบางอ้อว่าทำไมจึงเลือกตั้งชื่อ ‘Svaha’
หนังเปิดเรื่องที่ปี 1999 ด้วยเหตุการณ์ ของครอบครัวหนึ่งในหมู่บ้านชนบทเมืองยองวอล จ.คังวอน ได้ให้กำเนิดเด็กแฝดหญิง ประหนึ่งต้องคำสาป ท่ามกลางอาเพทที่เกิดกับเหล่าสัตว์เลี้ยง เช่น แพะ (ในบางลัทธิจะใช้แพะเป็นสัตว์บูชายัญ) แฝดพี่คลอดมาด้วยรูปลักษณ์กึ่งสัตว์ ตัวปกคลุมด้วยขน แฝดน้องเหมือนคนปกติ แต่ขามีแผลเหวะหวะซึ่งถูกพี่สาวปีศาจกัดกินระหว่างอยู่ในท้องแม่
หลังคลอดแม่ก็ตาย แล้วพ่อก็ตายตามในเวลาต่อมา ตาและยายจึงเลี้ยงดู อีกึมฮวา (รับบทโดย อีแจอิน) และกักขังแฝดพี่ไว้ในโรงเก็บของหลังบ้านเหมือนขังสัตว์ร้ายมาตลอด 15 ปี ไม่มีการแจ้งเกิด ไม่มีใครได้พบเห็น (ผู้ชม ก็ไม่เห็นเหมือนกัน แค่แพลมๆให้รู้ว่าน่ากลัว) มีงูป้องภัยยามใครบุกรุกเข้าใกล้หรือเข้ามาสอดรู้สอดเห็น กึมฮวาเป็นคนคอยส่งอาหาร ทิ้งไว้หน้าร่องประตูโรงกักขังที่มืดมิด ยายพึ่งพาไสยศาสตร์ สวดมนต์อิงสายคริสต์ ปกป้องกึมฮวามา สาวน้อยขากระเผลกมาตลอด และครอบครัวของเธอก็อยู่กันอย่างเก็บตัว เมื่อใดที่มีปัญหาก็ย้ายบ้าน
ในปี 2014 ยุคเสรีภาพของการนับถือศาสนา รีวิวหนังnetflix Svaha : The Sixth Finger สวาหะ
ผู้คนต่างเลือกสิ่งยึดเหนี่ยวทางใจตามแต่ศรัทธา มิจฉาชีพก็แฝงตัวหาผลประโยชน์ เกิดเป็นองค์กรหรือสำนักที่หลอกลวงอ้างตัวเป็นศาสดาหรือเผยแพร่หลักธรรมปฏิบัติผิดๆ เป็นเครื่องบังหน้าก่ออาชญากรรมทางการเงิน หรือคุกคามสวัสดิภาพ ก็จัดเป็นภัยสังคมอีกแบบหนึ่งที่ต้องมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านช่วยสืบเสาะ วิเคราะห์ อันไหนจริงอันไหนปลอม และเปิดโปงให้สังคมได้รู้กัน
หนังเน็ตฟลิกซ์จากเกาหลีที่มาตรฐานงานดีไม่มีหย่อน โดยเฉพาะเรื่องนี้คือการหวนกลับมาของผู้กำกับและมือเขียนบท จางแจฮยอน ที่เคยฝากผลงานมาแล้วในเรื่อง The Priests (2015) ครั้งนี้เขายังคงสนใจในเรื่องราวเหนือธรรมชาติที่ท้าทายความเข้าใจของผู้ชมว่าความจริงคืออะไรแน่ โดยเรื่องก่อนพูดถึงสองบาทหลวง ที่ต้องมาช่วยในคดีเด็กสาวที่ถูกผีสิง หรือไม่ก็เพียงเธอถูกกระทำย่ำยี จากมนุษย์ที่เลวทราม และสำหรับเรื่องนี้ จางแจฮยอนได้ท้าทายเรื่องราวในพุทธศาสนานิกายมหายานบ้าง ด้วยความเชื่อเรื่องเทพมาร และการเกิดของขั้วตรงข้ามอย่างความดี-ความชั่ว แสง-เงา อันดำรงอยู่ไม่อาจตัดกันขาด
หนังได้ดาราชั้นนำอย่าง ลีจุนแจ จากเรื่อง Along With the Gods มาขับเคลื่อนเรื่องราว ทั้งยังแจ้งเกิดให้ดาราเด็กหน้าใหม่อย่าง ลีแจอิน ในบทของแฝดสาวที่เกิดมาราวต้องคำสาป แฝดผู้น้องเป็นแผลที่ขา ส่วนแฝดคนพี่รูปลักษณ์ราวปีศาจต้องถูกกักขังในห้องตลอดชีวิต โดยลีแจอินสามารถคว้ารางวัลดาราหน้าใหม่จากเวทีในเกาหลีไปได้ สมทบด้วยดาราชายเจ้าของรางวัลดาราหน้าใหม่ยอดเยี่ยมปี 2016 จากเวทีบลูดราก้อนอย่าง ปาร์กจุนมิน และดารารุ่นเก๋าอย่าง จุงจินยอง ด้วย
ข้อดีมาก ๆ คือ หนังไม่มีการตอบคำถามว่าความเชื่อความศรัทธาในศาสนาหรือลัทธิ ในหนังนั้นถูกหรือผิดเพราะศาสตราจารย์ตัวละครนำของเรื่อง เป็นผู้ไม่มีความเชื่อในศาสนาและหรือลัทธิใดเลย เขาจึงมองทุกสิ่งทุกอย่างเป็นกลาง จึงไม่มีความความอคติในศรัทธาหรือคำสอน เพียงแต่เขาต้องการพิสูจน์ว่าลัทธิต่าง ๆ นั้นหลอกลวงประชาชนหรือไม่ โดยถือหลัก 3 ประการอันเป็นหัวใจของศาสนาคือ ผู้ก่อตั้ง ผู้ศรัทธา และคัมภีร์
คนเขียนบทเก่งมากนำเรื่องราวในพระคัมภีร์ของศาสนาคริสต์เกี่ยวกับการทำนายกำเนิดของพระเยซู
มาผูกเข้ากับคติความเชื่อเรื่องท้าวจาตุโลกบาลในศาสนาพุทธนิกายวัชรยานได้ลงตัว โดยมีโทนของเรื่องเป็นหนังสืบสวนสอบสวนคดีฆาตกรรมเด็กสาวหลายร้อยคดี ผสมบรรยากาศสยองขวัญแบบหนังผี มีการถอดรหัสจากคัมภีร์ทางศาสนา โดยนักบวชจากหลายศาสนา มีการอธิบายประติมานวิทยาท้าวจาตุโลกบาลตามแบบวชิรญาณ มีการอธิบาย การตั้งคำถามต่อความเชื่อความศรัทธาของผู้คนต่อศาสนาและลัทธิอันหลากหลายในเกาหลี มีการอธิบายความหมายของการหลุดพ้น อัตตา อนัตตา การนิพพานในความหมายของลัทธิมหายาน หนังมีการใช้สัญลักษณ์ที่ยอดเยี่ยม
อย่างไรก็ตามหากผู้ชมไม่มีความรู้เกี่ยวกับศาสนารวมถึงสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่อธิบายมาข้างต้น บอกเลยว่าหนังเรื่องนี้จะกลายเป็นหนังที่ดูยากในระดับหนึ่ง รวมถึงการที่มีอนุภาคย่อยในเรื่องที่ค่อนข้างมากยากต่อการเข้าใจ
ความท้าทายอีกอย่างหนึ่งคือ ในช่วงต้นหนังทำให้เราเห็นเส้นเรื่องที่เดินขนานกันถึง 4 เส้นเรื่อง ดูเหมือนว่าจะไม่เกี่ยวข้องกันและเดาไม่ออกว่าจะมาบรรจบกันได้อย่างไร แต่เมื่อผู้กำกับทำทุกอย่างให้เข้ารูปเข้ารอยและจับทุกอย่างให้อยู่ในทิศทางเดียวกันแล้ว มันคือความกลมกลืนอย่างหาที่ติไม่ได้ นั่นคือความยอดเยี่ยมที่สุดหนังเลยครับ
การเล่าแบบผูกปริศนาถือว่าทำได้ดีระดับหนึ่ง
แม้ท้ายที่สุดเป็นผู้ชมเองนี่ล่ะที่ต้องตัดสินความจริงและไม่จริงที่เกิดขึ้น จนถึงบทสรุปสุดท้ายว่าใครคือ เทพใครคือมารกันแน่ แต่ที่ต้องชื่นชมมากคือบทหนังทั้งพลอต และบทสนทนานั้นทำได้ดีมาก น่าติดตาม ทั้งยังชวนให้คิดอยู่ตลอดตามสาระของหนัง เป็นหนังที่ตั้งคำถามต่อความเชื่อ และการตัดสินความดีความชั่วได้อย่างน่าตื่นเต้น และมีเสน่ห์แปลกประหลาดอีกเรื่องหนึ่งทีเดียว ยังต้องชื่นชมไปถึงโปรดักชั่นที่ทำได้สุดยอดทั้งการถ่ายภาพและการออกแบบงานสร้าง ซึ่งเกาหลีทำได้ดีอยู่แล้ว ดูไปก็น่าเจ็บใจที่เกาหลีไปได้ไกลขนาดนี้แล้ว ในขณะที่เรื่องเหนือโลกของบ้านเรานั้นก็โดดเด่นมีให้เล่น มากมายแต่ยังไม่สามารถทำออกมาเป็นหนังได้คมคายและน่าจะจำมากพอ
ศาสนจารย์พัคอุงแจ (รับบทโดย อีจองแจ) แห่งสถาบันวิจัยศาสนาตะวันออกไกล คือคนที่ทำหน้าที่นั้น แม้จะมีคำนำ หน้านามเป็นศาสนจารย์ ก็ใช่ว่าจะเชื่อถือในพระหรือศาสนา ที่ทำอยู่ก็เป็นเพียงอาชีพทำมาหากิน สำนักงานเก่าๆเล็กๆของสถาบันก็ไม่ได้มีใครมากไปกว่าตัวเขา ผู้ช่วยชิม (รับบทโดย ฮวังจองมิน) ที่ทำงานธุรการ และ ผู้ช่วยภาคสนาม ที่ทำหน้าที่นักสืบคือ โยเซฟ (รับบทโดย เดวิดอี) ความต้องอยู่รอดของสำนักงานนี้ ทำให้ ‘เงิน’ กลายเป็นเป้าหมายเช่นกัน การเผยแพร่บทความ ต้องมีค่าตอบแทน หรือการเป็นวิทยากร ก็จะตามด้วยการรับบริจาค ดีกรีความอื้อฉาวจะ ถูกชงและปั่นตามผลตอบแทน ทำให้เขาตกอยู่ท่ามกลางทั้งความชื่นชมและความเกลียดชังของกลุ่มคนที่ต่างกลุ่มกันในสังคม
ศาสนจารย์พัคมีพระนักบวชสายพุทธ รีวิวหนังnetflix Svaha : The Sixth Finger สวาหะ
ซึ่งเป็นรุ่นน้องสมัยเรียน ชื่อ พระแฮอัน (รับบทโดย จินซอนคยู) คอยช่วยให้คำปรึกษาในการตีความทางศาสนา หรือข้อมูลในปรัชญาคำสอน รวมทั้งการสืบสวนเรื่องราว สำคัญที่หนังจะเล่าต่อไป พระแฮอันสังกัดอยู่กับสำนักสงฆ์ที่มีหัวหน้าคณะอาวุโส ซึ่งศาสนจารย์พัคไม่ค่อยถูกชะตาด้วย จึงมักเรียกท่านลับหลังว่า พระหัวปลาหมึก (รับบทโดย ชาซุนแบ) เพราะท่านดูจะมองทะลุเจตนาแฝงของเขาเสมอ
เมื่อศาสนจารย์พัคเริ่มสนใจกลุ่มชุมนุมทางศาสนา’เนินกวาง’ ที่จ.คังวอน ซึ่งเป็นกลุ่มเล็กๆที่ดูเรียบร้อยผิดสังเกต เช่น ไม่รับของ ให้แต่ทาน การสืบสอดแนมจนทยอยได้ข้อมูลมาปะติดปะต่อเรื่องราวได้ว่า กลุ่มนี้เป็นสายพุทธนิกายวชิรยาน (คือ พุทธทิเบต) บูชาแม่ทัพซึ่งเป็นจตุโลกบาลผู้พิทักษ์ประจำสี่ทิศ ได้แก่ ท้าวดามุน-ทิศเหนือ ท้าวจึงจาง-ทิศใต้ ท้าวจีกุก-ทิศตะวันออก ท้าวควางมก-ทิศตะวันตก ซึ่งมีตำนานว่า เหล่าจตุโลกบาลนี้เคยเป็นมารทำชั่วมาก่อน เมื่อได้พบพระพุทธเจ้า เกิดศรัทธาและเดินตามคำสอน จึงหันมาต่อสู้กับความชั่ว เอาชนะสงครามแห่งอสรพิษ ด้วยแสงแห่งพระพุทธคุณ จนได้ขึ้นสวรรค์เป็นพุทธองค์ไปด้วย
ชื่อพุงซาคิมเจซอก เป็นผู้เขียนคัมภีร์ซึ่งศาสนจารย์พัคไปค้นมาได้จากสำนักเนินกวาง นำมาสู่การสืบค้นข้อมูลเพิ่มจากพระปลาหมึกว่า คิมเจซอกเกิดในปี 1899 ที่เมืองยองวอล เขาเป็นที่นับถือจากผู้คนในสังคมทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นผู้ก่อตั้งทงบังกโย (หมายถึงกลุ่มสาวกความเชื่อหรือนิกาย) ในด้านทางโลกคือช่วยชาติในยุคกู้เอกราชจากญี่ปุ่น ในทางธรรม เขาอยู่ในสายพุทธวชิรยานที่เผยแพร่ในญี่ปุ่น ถูกเรียกขานเป็นพุงซาคิมเจซอก ที่เป็นผู้รู้แจ้ง บรรลุพุทธภาวะเป็นเทพ ยังไม่มีใครทราบชัดว่ามีชีวิตอยู่หรือไม่ หรือเป็นอมตะตามคำร่ำลือ มีแต่ศิษย์ใกล้ชิดที่ได้เคยพบเห็นตัว เคยมีข่าวว่าเขากำลังจะเขียนคัมภีร์ใหม่ และเกิดหายตัวไปก่อน ตั้งแต่ปี 1985 ปีที่เขาได้พบกับพระเกจิทิเบตรูปดัง
ทั้งหมดนำมาสู่การไขปริศนาว่า กลุ่มคนที่อุปโลกน์เป็นเทพจตุโลกบาลเข้ามาเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมเพราะความต้องการเอาชนะสิ่งชั่วร้ายใด จะอธิบายความเกี่ยวข้องกับอีกึมฮวาและพี่สาวของเธออย่างไร คำตอบจะกระจ่างขึ้นได้เมื่อศาสนจารย์พัคตามเจอตัวควางมกหรือนาฮันที่กำลังปฏิบัติภารกิจ และเจอตัวคิมเจซอกซึ่งหลบรักษาตัวในสภาพพึ่งเครื่องช่วยหายใจในที่แห่งหนึ่ง มีศิษย์ข้างกายดูแลคือ คิมดงซู (รับบทโดย ยูจีแท) และ มยองฮี (รับบทโดย มุนซุก) รวมทั้งการไขปริศนาเนื้อหาในคัมภีร์ และตัวเลขอสรพิษ 81 ตัวในนั้นว่าสื่อสิ่งใด นอกจากนี้การได้พบกับพระเกจิทิเบตรูปนั้น ก็จะเป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอว์ที่จะทำให้เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดได้