รีวิวหนังnetflix Stronger หัวใจไม่แพ้
ชีวิตของ เจฟฟ์ บาวแมน (เจค จิลเลินฮาล) มีอันกลับตาลปัตรหลังเหตุวินาศกรรมบอสตันมาราธอน ดูหนัง เขาต้องเผชิญความรู้สึกด้อยค่าในฐานะผู้พิการและความกดดันในการรับบทฮีโร่ที่ แพตตี้ (มิแรนดา ริชาร์ดสัน) ดูหนังออนไลน์ แม่ของเขาพยายามป่าวประกาศ แต่ในช่วงวิกฤติชีวิตเขายังมี อีริน เฮอร์ลีย์ (ตาเตียนา มาสลานี) แฟนสาวที่เลิกราไปนานกลับมาดูแลและพร้อมสร้างครอบครัวกับเขานั่นทำให้เจฟฟ์ต้องพิสูจน์ตัวเองว่าเขาดีพอจะได้ลุกขึ้นเดินเคียงข้างเธออีกครั้ง ดูหนังฟรี
เริ่มเรื่องมาก็ดูธรรมดาไม่ได้มีอะไรพิเศษ
แต่หลังจากประมาณ 30 นาทีเป็นต้นไป เล่นกับความรู้สึกล้วนๆ มี 4 ฉากที่แอดน้ำตาไหล มี 2 ฉาก ที่เกือบน้ำตาไหล (เพราะหนังมันเล่นกับความรู้สึกคนดู แล้วแอดอ่อนไหวกับเรื่องแบบนี้) มีฉากขำอยู่บ้างแต่มันไม่ใช่ความขำที่สนุกสนาน เป็นขำแบบแห้งๆอารมณ์แบบขำปลอบใจตัวเอง มันเป็นหนังชีวิตที่สร้างจากชีวิตจริงของชายที่ชื่อ เจฟฟ์ โบว์แมน ผู้ชายที่สูญเสียขาทั้ง 2 ข้างไปจากเหตุการณ์วางระเบิดในการแข่งขันบอสตันมาราธอนปี 2013 ทำให้เขากลายเป็นฮีโร่แก่ชาวบอสตัน และเป็นแรงบันดาลใจดีดีให้กับคนทั่วโลก บางฉากในหนังเหมือนจะไม่มีอะไรเลยนะ มีแค่คน 2 คนนั่งพูดกันถึงเรื่องของตัวเอง แต่มันสามารถเปลี่ยนความคิดของคนๆหนึ่งไปเลยอะ แต่ใครนั่งคุยกันไปตามดูกันได้ในโรงภาพยนตร์นะ หนังไม่ยืดนะประทับใจยันฉากสุดท้ายของเรื่อง
สิ่งที่ทำให้ชีวิตของ เจฟฟ์ บาวแมน ตัวจริงเป็นที่สนใจของชาวโลกคือบทบาทการเป็นพยานสำคัญที่ทำให้ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุวางระเบิดวินาศกรรมบอสตันมาราธอนได้ และเรื่องราวของเขาได้ก่อให้เกิดพลังสำคัญที่ทำให้ชาวบอสตันลุกขึ้นสู้กับผู้ก่อการร้ายจนเกิดแคมเปญ บอสตันสตรอง แต่ประเด็นสำคัญที่จอห์น พอลโลโน ผู้เขียนบท (ดัดแปลงจากหนังสือ Stronger โดย เจฟฟ์ บาวแมนและ เบรต วิตเตอร์) เลือกหยิบจับมาถ่ายทอดคือการเอาชนะความพิการของตนเอง
และเมื่อหนังได้ผู้กำกับหนังตลกอย่าง เดวิด กอร์ดอน กรีน มาถ่ายทอดเรื่องราวดังกล่าวเลยทำให้หนังสามารถหลุดพ้นจากอารมณ์ฟูมฟายไปสู่การรับมือกับวิกฤติชีวิตของผู้ชายไม่ยอมโตที่แทบจะถอดแบบมาจากหนังตลกที่เขาเคยกำกับอย่าง Pineapple Express (2008) นั่นทำให้หนังเต็มไปด้วยปัญหาชีวิตวุ่นวายทั้งแม่เจ้ากี้เจ้าการ แฟนสาวละเหี่ยใจ และเพื่อนเกรียนไม่ยอมโตที่หาเรื่องชกต่อยในบาร์ ซึ่งกอร์ดอน กรีน ก็สามารถคุมองค์ประกอบทั้งหมดออกมาได้อย่างลงตัวและมีหลายช่วงที่ทำให้นึกถึง The Fighter (2010) หนังชิงออสการ์ของผู้กำกับ เดวิด โอ รัสเซล ไม่น้อยจนหนังน่าจะมีลุ้นได้เข้าชิงออสการ์ทั้งภาพยนตร์และผู้กำกับเลยทีเดียว
เมื่อสิ้นปี 2016 ที่ผ่านมา รีวิวหนังnetflix Stronger หัวใจไม่แพ้
หลายคนก็คงได้ดูหรือรู้จักหนังเรื่อง Patriots Day ที่ Mark Wahlberg รับบทเป็นหนึ่งในทีมตำรวจบอสตันดูแลความปลอดภัยของงานวิ่งมาราธอนวันชาติ แล้วเกิดเหตุการณ์วางระเบิดครั้งใหญ่ขึ้นกลางงาน มีคนบาดเจ็บล้มตายและสร้างความเสียหายอย่างมากจนเป็นข่าวดังที่สะเทือนขวัญไปทั่วโลก
ปีนี้เราจะได้กลับไปในงาน Boston Marathon บนแผ่นฟิล์มอีกครั้ง โดยนักแสดงเจ้าบทบาท Jake Gyllenhaal ผู้เคยเข้าชิงออสการ์จาก Brokeback Mountain และเข้าชิงลูกโลกทองคำจาก Nightcrawler และ Love & Other Drugs สวมบทบาทเป็น Jeff Bauman ชายผู้ตกเป็นเหยื่อและสูญเสียขาทั้งสองข้างจากการก่อการร้ายครั้งนั้น ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของ ‘Boston strong’
หนังเรื่อง Stronger ของผู้กำกับ David Gordon Green เริ่มเล่าเรื่องราวของ Jeff Bauman ตั้งแต่ 1 วันก่อนเกิดเหตุ ซึ่งมากพอที่จะพาคนดูได้รู้จักอุปนิสัยใจคออันขี้เล่นเฮฮา ความเป็นคนหย่อนยานของเขา แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็เป็นที่พึ่งพาที่สำคัญของ Patty (Miranda Richardson นักแสดงผู้เข้าชิงออสการ์) แม่บังเกิดเกล้าของเขา จนไปถึงความสัมพันธ์เข้า ๆ ออก ๆ รัก ๆ เลิก ๆ ระหว่างเขากับ Erin Hurley (Tatiana Maslany เจ้าของรางวัล Emmy จาก Orphan Black)
ในวันเกิดเหตุ เขาตั้งใจไปเชียร์ Erin ที่ร่วมวิ่งมาราธอน ณ จุดใกล้เส้นชัย ซึ่งจุดนั้นเองคือจุดที่ใกล้เคียงกับจุดที่ระเบิดถูกวางไว้ เขาสูญเสียขาทั้งสองข้างในทันที แต่ยังโชคดีที่มีพลเมืองดีช่วยพาเขาส่งรพ.ได้ทัน และนั่นก็เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิตของเขาและชีวิตคนรอบข้างของเขาอย่างยิ่ง
เขาไม่ได้เป็นคนเดียวที่สูญเสีย หากแต่คนอื่น ๆ รอบตัวเขาก็สูญเสียอะไรบางอย่างไปด้วย
พูดอีกแง่หนึ่งคือ การก่อการร้ายครั้งนั้น ทำลายชีวิตคนหนึ่งคน Jeff สูญเสียอวัยวะชิ้นสำคัญ และเริ่มป่วยเป็นโรค PTSD ซึ่งมันส่งผลกระทบต่อเนื่องเป็นคลื่น ๆ หรือเป็นโดมิโน และที่น่ากลัวคือพลังในด้านลบหรือด้านร้าย เวลามันทำลาย มันทำลายล้างอย่างรวดเร็วและทรงอำนาจมาก
การนำเสนอของหนังก็ทำได้เข้าถึงอารมณ์และความรู้สึกของตัวละคร เช่น การที่เขานำเสนอฉากนางเอกเปิดลิ้นชักถุงเท้าที่พระเอกจะไม่ได้ใช้อีกแล้วนั้น มันก็แอบเจ็บและสะเทือนใจเราจริง ๆ แล้วการแสดงของสองนักแสดงนำ ก็สตรองมาก โดยเฉพาะ Jake Gyllenhaal ที่เรื่องนี้เขาทุ่มเทอย่างหนัก สมควรแก่การเข้าชิงและ/หรือได้รับรางวัลอะไรใหญ่ ๆ สักรางวัล
แต่พลังด้านลบที่ว่าสตรองแล้ว พลังด้านบวกกลับสตรองและทรงพลังยิ่งกว่า เช่น การซัพพอร์ตซึ่งกันและกัน หรือการที่คนคนนึงสามารถเป็นแรงผลักดันหรือแรงบันดาลใจให้คนอีกหลายร้อยหลายพันคน มันเป็นประเด็นที่ดี และหนังเขาถ่ายทอดได้ดี ไม่ดูยัดเยียดจนเกินไป สำหรับเรา เราว่าซีนในช่วงยากลำบากนั้นสะเทือนใจเราแค่ไหน ซีนพลังบวกเรานี้มันเข้าถึงและกินใจจนเราน้ำตาไหลได้มากกว่าเป็นทวีเท่า
Stronger เป็นหนังที่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกที่พรั่งพรูออกมาไม่ขาดช่วงขาดตอน
มันทำให้เรานึกถึงหนังเรื่อง Manchester by the Sea ที่เราชอบมากและเชียร์มากบนเวทีออสการ์ปีล่าสุด ตรงที่เราอยากกลับไปดูหนังเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะอยากเข้าไปอยู่กับความรู้สึกของตัวละครเหล่านั้น โดยเฉพาะพลังด้านบวกเกี่ยวกับความสตรองในช่วงท้ายที่หนังส่งมาให้คนดูอย่างเต็มเปี่ยม
จริง ๆ อยากเขียนให้ยาวและละเอียดกว่านี้ อยากจะร่ายทุก ๆ ความรู้สึกและความอินที่เรารู้สึก ณ ขณะดูหนังเรื่องนี้ มันมีประเด็นมากมายที่เราอยากเขียน เช่น เรื่องหน้าที่ความรับผิดชอบ หรือบทบาทของฮีโร่ ฯลฯ แต่ช่วงนี้เราไม่ค่อยมีเวลาสักเท่าไหร่
แต่เอาเป็นว่า Stronger เป็นหนังดราม่าที่ดูสนุกและให้อะไรกับคนดูเยอะมาก เรายกให้เป็นหนึ่งในหนังที่เรารักที่สุดเรื่องหนึ่งแห่งปี เรื่องราวของมันจากมุมมองของเหยื่อระเบิดรายนี้ก็ worth telling ควรค่าแก่การไปดู เพื่อเสริมสร้างความสตรองให้แก่ตนเอง และที่สำคัญ การแสดงของ Jake Gyllenhaal ในเรื่องนี้ ก็จัดเป็นอีกหนึ่งการแสดงที่เราจดจำที่สุดคนหนึ่งแห่งปีนี้เช่นกัน
ความโดดเด่นของบทภาพยนตร์ของ จอห์น พอลโลโน รีวิวหนังnetflix Stronger หัวใจไม่แพ้
คือการพูดเรื่องราวการเอาชนะตนเองผ่านวิธีเล่า หรือแอปโพรช (Approach)เป็นกระบวนการตระหนักรู้หรือ Realize ของ เจฟฟ์ โดยพอลโลโน ได้ถักทอแต่ละซีนโดยเล่นกับ “สัญญาณเตือน” ตั้งแต่เสียงเตือนเตาอบที่เจฟฟ์ลืมเปิดจนทำให้ไก่ในเตาไหม้เพราะมัวแต่เอาขยะไปทิ้งตอนต้นเรื่อง ไปเพื่อปูถึงการเป็นคนที่ไม่เอาจริงเอาจังในชีวิต เพื่อปูไปสู่ฉากผู้ต้องสงสัยที่เดินผ่านหน้าเขาในงานบอสตันมาราธอนก่อนเกิดเหตุระเบิดเพื่อสื่อถึงชะตาชีวิตที่พลิกผันโดยไม่มีสัญญานเตือนเช่นกัน รวมไปถึงการเล่นกับการเปิดกล่อง เปิดประตูที่ปิดกั้นรอให้ตัวละครเข้มแข็งพอจะเปิดมันเอง
เสริมรับกับงานถ่ายภาพของ ฌอน บ๊อบบิต ที่เล่นกับแอปโพรชดังกล่าวทั้งเรื่อง แต่ช็อตที่โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้นการเปลี่ยนผ้าพันแผลที่เลือกโฟกัสที่หน้าเจฟฟ์ แล้วปล่อยให้ภาพการเปลี่ยนผ้าพันแผลของขาที่ขาดเป็นภาพเบลอ โดยอาศัยการแสดงของเจค จิลเลินฮาล และการเข้าเฟรมของหน้าตาเตียนา มาสลานี มาสื่อสารถึงการตระหนักรู้ทั้งความเจ็บปวดและความรักที่จะเอาชนะความยากลำบากของชีวิตได้ ควบคู่ไปกับงานจัดแสงที่สามารถสื่อสารถึงชะตากรรมของตัวละครได้อย่างลึกซึ้งอีกด้วย
คงเดาได้ไม่ยากว่าหนังแนวชีวิตต้องสู้อย่าง Stronger คือโอกาสทองสำหรับ เจค จิลเลินฮาล นักแสดงหนุ่มที่มารับบทบุคคลที่มีชีวิตอยู่จริงอย่าง เจฟฟ์ บาวแมน ซึ่งกล่าวอย่างไม่เกินเลย มันก็คือบทที่เวทีรางวัลออสการ์โปรดปรานยิ่งนัก ยิ่งบทดังกล่าวมีความใกล้เคียงกับบท รอน โควิก นาวิกโยธินพิการที่เคยส่ง ทอม ครูซ เข้าชิงออสการ์จาก Born on the fourth of July (1989)ด้วยแล้ว งานนี้หากการทุ่มเททั้งการกลืนกินตัวเองเป็นตัวละครทั้งรูปลักษณ์และการฝึกการเคลื่อนไหวให้เหมือนคนพิการ ควบคู่ไปกับแววตาและถ่ายทอดอารมณ์ ยังสะสมแต้มบุญไม่พอให้เจค
ได้สมหวังบนเวทีออสการ์คงเหลือแต่มาหาอาจารย์หนู กันภัยให้สักยันต์สัก 18 แถวแล้วแหละ และเนื่องจาก Stronger ไม่ได้มีเพียง เจค จิลเลินฮาล เท่านั้นที่ควรได้รับการแซ่ซ้องสรรเสริญ ดาราสาวจากซีรีส์ดัง Orphan Black อย่าง ตาเตียนา มาสลานี ยังรับบท อีริน เฮอร์ลีย์ ได้อย่างชวนใจสลายด้วยบุคลิกตัวละครที่ซับซ้อนเกินกว่าการเป็นแม่พระของชายพิการ เพราะบทยังเรียกร้องให้เธอแสดงความเป็นมนุษย์ทั้งหญิงผู้กำลังค้นใจตัวเองว่าเธอจะรักชายพิการไม่ยอมโตอย่าง เจฟฟ์ ได้หรือไม่จนนำไปสู่ฉากระเบิดอารมณ์ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนตอนท้ายเรื่องได้อย่างทรงพลัง รวมถึง มิแรนดา ริชาร์ดสัน ในบท แพตตี้ แม่จอมเจ้ากี้เจ้าการของเจฟฟ์ที่ทั้งเปี่ยมอารมณ์ขันและน่าเห็นใจไปในคราวเดียวกันที่ช่วยสร้างอารมณ์ขันให้เรื่องราวได้อย่างเปี่ยมสีสัน