รีวิวหนังnetflix Kingdom : Ashin of the North
รีวิวหนังnetflix Kingdom : Ashin of the North การปรากฏตัวของสตรีลึกลับหลังสงครามชิงบัลลังก์โชซอนจบลงในซีรีส์ซีซัน 2 กำลังได้รับการเปิดเผยปูมหลังในหนังเรื่องนี้ ซึ่งยังเฉลยที่มาของดอกไม้ชุบชีวิตคนที่ทำให้เกิดคนตายเดินดินระบาดไปทั่วอาณาจักรโชซอนด้วย หลังความประหลาดใจในตอนจบของซีซันที่ 2 ซึ่งเผยหน้าของดาราดังอย่าง จอนจีฮยอน หรือ ยัยตัวร้าย จากหนัง ‘My Sassy Girl’ ที่ห่างหายจากวงการไปนานหลายปี มาปรากฏตัวเป็นตัวละครใหม่ที่ใบ้ว่าเป็นต้นตอของเรื่องราวทั้งหมดด้วย เว็บดูหนัง
หลัง จอนจีฮยอน ปรากฏตัวในตอนท้ายของซีซั่นที่ 2 ท่ามกลางคราบเลือดและผีดิบคลั่งในกรงขัง ตัวละครของเธอก็กลายมาเป็นที่จับตามองของแฟน ๆ ซีรีส์ว่าเธอคนนี้ คือใครกันแน่ และเธอกี่ยวข้องอะไรกับเหตุนองเลือดที่เกิดขึ้นในโชซอน
Kingdom เป็นซีรีส์ที่นับได้ว่ามีประเด็นการเมืองรุนแรงและเด่นชัดที่สุดเรื่องหนึ่งบน Netflix ไม่ว่าจะเป็นความไม่แยแสประชาชนที่ล้มตายจากฝูงผีดิบคลั่ง และความอดอยากของเจ้า ไปจนถึงการปิดบังความจริงกับประชาชน แม้ว่า Kingdom: Ashin of the North จะโฟกัสไปที่ตัวละครหลักอย่างอาชินเพื่อให้คนดูได้รู้จักตัวละครนี้มากขึ้นก่อนไปซีซั่น 3 แต่ตอนนี้ก็มีประเด็นการเมืองที่หนักหน่วงซ่อนเอาไว้ด้วยเช่นกัน
ความขัดแย้งระหว่างโชซอนและพาจอวีสร้างความลำบากให้ชนเผ่าเล็ก ๆ อย่าง ซองจอยาอิน ที่ตั้งรกรากอยู่ในโชซอนมาอย่างยาวนานแต่ไม่เคยได้รับสวัสดิการและการคุ้มครองใด ๆ จากโชซอนแม้แต่น้อย พวกเขาทำได้แค่เป็นเบี้ยตัวเล็ก ๆ ให้ทหารโชซอนหลอกใช้ สร้างความเชื่อจอมปลอมให้พวกเขาจมปลักกับภาพลวง “หากได้รับการยอมรับจากโชซอน ชีวิตที่สุขสบายไม่ต้องอดอยากก็รออยู่ข้างหน้า” ซ้ำร้ายยังโดนทหารโชซอนหลอกใช้ ให้แฝงตัวไปเป็นไส้ศึกปล่อยข่าวลวงให้กับพวกพาจอวี
จนนำไปสู่โศกนาฎกรรมครั้งใหญ่ เว็บดูหนังฟรี
ซึ่งคนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงคงไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจาก อาชิน ที่เฝ้าตั้งคำถามมาตลอดว่าการภักดีกับโชซอนกลับไม่เคยทำให้ชีวิตของครอบครัวเธอสุขสบาย ความหวังสุดท้ายที่เธอมี คือการข้ามน้ำข้ามทะเลขอร้องให้ทหารโชซอน ช่วยล้างแค้นให้กับเผ่าของเธอ… แม้จะเป็นตอนพิเศษความยาว 92 นาที แต่ก็ใช้เวลาไปร่วมชั่วโมงในการปูเรื่องราวทั้งหมดในองก์แรก ทำให้เวลาในการเล่าช่วงไคลแมกซ์ของเรื่องมีอย่างจำกัด และน่าเสียดายที่เรื่องราวในตอนนี้ก็ไม่ได้พาคนดูไปรู้จักกับพืชคึนชีพมากไปกว่าที่เราได้รู้ในซีรีส์ภาคหลัก
แต่การพาคนดูไปสัมผัสความเจ็บปวดในวัยเด็กของอาชินและความขัดแย้งระหว่างโชซอนและพาจอวี ก็เชื้อเพลงชั้นดี ที่จะเผาไหม้ความรู้สึกคนดูไปพร้อมกับฉากดราม่าพ่อลูกที่บีบคั้นอารมณ์คนดูจนอดน้ำตาไว้ไม่อยู่ ยิ่งไปกว่านั้นตัวละครที่ดูเหมือนจะมีบทบาทสำคัญในซีซั่นที่ 3 อย่างอาชิน กลับกลายมาเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญของเหตุการณ์ในซีรีส์ภาคหลัก ที่จะช่วยให้เนื้อหาสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
เป็นเรื่องราวในอีกมุมหนึ่งของเส้นทางของซีรีส์ Kingdom อาชิน (แสดงโดน จวนจีฮุน) เล่าถึงเส้นทางของอาชิน ผู้เป็นตัวเดินเรื่องหลัก จากหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ภักดีกับ โชซอนมาตลอด แต่ก็มีเหตุทำให้เกิดซอมบี้เกิดขึ้น ทั้งที่มาที่ไปของต้นไม้ที่สามารถฟื้นคืนชีพคนตายให้กลับมามีชีวิตอยู่ได้ และตัวตนเบื้องหลังของ อาชิน ที่โผล่มาให้เห็นใน ตอนท้ายของ ซีรีส์ ซีซัน 2 ในเรื่องพาพวกเราย้อนกลับไปดูตั้งแต่วัยเด็กของ อาชินว่าประสบพบเจออะไรมาบ้างจนเป็นที่มาของความน่ากลัวที่ส่งมายังโชซอน
การปกป้องผู้มีอำนาจ และเพิกเฉยต่อความอยุติธรรม โดยเริ่มจากการที่ ‘แม่ทัพมินชีรก’ (พัคบยองอึน) โกหกเพื่อปกป้องกษัตริย์โจบอมอิลตระกูลแฮวอนโจที่ทอดทิ้งประชาชนและใช้อำนาจในทางมิชอบเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชาวซองจอยาอินโดนฆ่าและกลายเป็นปีศาจในท้ายที่สุด หนังฟรี
พ่อของอาชินภักดีต่อแผ่นดินโชซอนและราชวงศ์เพราะมีบุญคุณต่อกันมาตั้งแต่ยุคบรรพบุรุษ และยอมทำงานทุกอย่างตามสั่งเพื่อรอคอยที่จะได้รับเกียรติและการยอมรับเป็นรางวัล แต่เรื่องราวก็สะท้อนให้เห็นว่าหากภักดีต่อผู้ที่ไม่เห็นค่า จนวันตายรางวัลตอบแทนก็ไม่มีวันมาถึง
‘พวกเขาอาจมีน้ำใจต่อบรรพบุรุษของพวกเราก็จริง แต่บัดนี้พวกเขาทวงคืนทุกอย่างไปหมดแล้ว’ ประโยคง่ายๆ ที่อาชินพูดกับพ่อทำให้เห็นว่าบุญคุณที่มอบให้ก็หมดได้ สะท้อนให้เห็นความแตกต่างทางความคิดของคนสองรุ่นที่เด็กๆ ได้เห็นว่าบุณคุณมีวันหมดได้ในขณะที่ผู้ใหญ่ยังติดอยู่กับความเชื่อเดิมๆ ที่ว่าบุญคุณต้องทดแทน
และการอาศัยบารมีของผู้มีอำนาจนั้นเป็นส่ิงที่ปลอดภัยกว่า และความภักดีอย่างไม่มีเงื่อนไขจะทำให้พวกเขาใช้ชีวิตอย่างองอาจ ฉากนี้ยิ่งทำให้ฉากที่อาชินได้พบกับพ่อในวัยชราที่ร้องหาเพียงความตายน่าสะเทือนใจและทำให้เห็นว่าจุดจบของคนที่เลือกเข้าข้างผู้มีอำนาจมากกว่าความถูกต้องนั้น สุดท้ายก็ต้องอยู่อย่างไร้วิญญาณและศักดิ์ศรี หนังใหม่
รีวิวหนังnetflix Kingdom : Ashin of the North 
เรื่องราวของหนังจับใจความย้อนไปเป็นเป็นเวลาหลายปีก่อนเหตุการณ์ในซีรีส์ ณ ชายแดนตอนเหนือของโชซอนที่กำลังมีปัญหากับกลุ่มชนเผ่าเร่ร่อนหนี่ว์เจินที่รวมเป็นประเทศที่ชื่อ พาจอวี ดังนั้นกองทัพโชซอนซึ่งนำโดยรองแม่ทัพ มินจีรก ผู้อุทิศตนเพื่อชาติซึ่งเคยปรากฏตัวในซีรีส์มาก่อนแล้ว จึงอาศัยชนกลุ่มน้อยของหนี่ว์เจินกลุ่มหนึ่งที่อยู่คั่นกลางคอยเป็นไส้ศึกเพื่อรายงานความเคลื่อนไหวของพาจอวีโดยเสนอจะช่วยให้ได้เป็นข้าราชการของโชซอนต่อไป แต่เมื่อเกิดเหตุบางอย่างในเขตป่าลึกของโชซอนทำให้ชาวพาจอวีตายหลายคน โดยทหารโชซอนอ้างว่าเป็นการกระทำของเสือร้าย ก็กลับยิ่งสร้างความสงสัยของพาจอวีจนเสี่ยงจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามขึ้น
จอนจีฮยอนรับบทเป็น อาชิน ตัวหลักของเรื่องที่วัยเด็กของเธออาศัยอยู่ในหมู่บ้านชนกลุ่มน้อยหนี่ว์เจิน โดยพ่อของเธอเป็นหัวหน้าหมู่บ้านที่คอยรายงานโชซอนอยู่เสมอ นอกจากนั้นเธอยังได้ค้นพบดอกไม้ต้องห้ามที่ซุกซ่อนไว้ในป่าลึกพร้อมสลักคำเตือนว่า ดอกไม้นี้ชุบชีวิตคนตายได้ หากแต่ต้องรับผลในสิ่งที่ตามมา และหลังจากหมู่บ้านของเธอตกเป็นเหยื่อความขัดแย้งของพาจอวีและโชซอน อาชินจึงระเหเร่ร่อนมาขอให้รองแม่ทัพโชซอนมินจีรกซึ่งแสดงโดยดาราคุณภาพอีกคนอย่าง พักบยองอึน นั้นช่วยล้างแค้นให้พ่อของเธอ แลกกับการที่เธอจะสอดแนมพาจอวีให้
ต้องยอมใจในความเก่งในบทหนังของ คิมอึนฮี ที่สามารถใช้ตัวละครมินจีรกที่เราเคยรู้จักมาพลิกแง่มุมการนำเสนอว่าความรักชาติอาจไม่ได้มีเพียงมุมที่สวยงาม และยังทำให้ตัวอาชินนั้นยิ่งมีปมความขัดแย้งที่น่าสนใจน่าเห็นใจขึ้นไปอีก ไม่เพียงแต่ในหนังเรื่องนี้ แต่ยังโยงไปถึงความขัดแย้งระหว่างอุดมการณ์ของตัวละครนี้ในซีรีส์ซีซัน 3 กับพวกกลุ่มตัวเอกด้วย และผู้ชมอาจต้องเอาใจช่วยทั้งสองฝั่งที่อยู่ตรงข้ามกันเลยทีเดียว นี่คือความสุดยอดที่สุดในบทอันย้อนแย้งแทงทะลวงอารมณ์ความคิดของผู้ชม
หากใครชอบหนังที่ภาพสวย CG ดี หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีจุดเด่นทางด้านนั้นเลยล่ะครับ นอกจากจะภาพสวยแล้วยังมีการดำเนินเรื่องที่ทำให้เข้าใจถึงรายละเอียดของตัวละคร แรงจูงใจ และปมต่าง ๆ เรียกได้ว่าเป็นหนังแนวบทมากกว่าหนังแนวบู๊ ซึ่งก็แอบผิดความคาดหวังนิดหน่อย
อีกเหตุผลที่คุณน่าจะชอบหนังเรื่องนี้ต้องยกให้การแคสผู้แสดงเพราะสามารถดึงสุดยอดนางเอกคนหนึ่งของวงการบันเทิงจากเกาหลีใต้มาได้ก็คือ จวนจีฮุน (Jun Ji Hyun) ด้านความสามารถทางด้านการแสดงคงไม่ต้องอธิบายอะไรมากเพราะผลงานต่าง ๆ ก็เป็นที่ประจักษ์กันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นจากเรื่อง My Sassy Girl และซีรีส์ที่โด่งดังมาก ๆ ในไทยอย่าง My Love from Another Star และอยู่ในวงการบันเทิงของเกาหลีมามากกว่า 20 ปีแล้วล่ะครับ ดูหนังฟรี
ด้านไม่ดีก็คือ Format จากซีรีส์กลายมาเป็นภาพยนตร์ การทำภาพยนตร์ค่อนข้างมีความต่างกับซีรีส์พอสมควรในด้านของเวลา จากตอนละ 1 ชั่วโมง 13-16 ตอน ให้จบเรื่อง 92 นาที การดำเนินเรื่องเลยต้องเลือกดี ๆ ว่าจะนำเสนอออกมาในด้านไหน
Ashin of the North เลือกให้น้ำหนักไปทางของที่มาที่ไป และความเข้าใจตัวละคร ซึ่งมันก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่ผมมองว่ามันค่อนข้างขัดใจแฟนสายแอคชั่นไปซะหน่อย เพราะสิ่งที่ซีรีส์ Kingdom ทำไว้ก็คือ ฉากซอมบี้ไล่ล่าความบีบหัวใจ ความ“โหดสัส” ของซอมบี้ ที่มันไม่ตายสักที และดูจะแข็งแกร่งขึ้นในทุก ๆ ซีซัน และเรื่องนี้ถูกปล่อยออกมาหลังจาก ซีซันสองที่ซีรีส์สร้างมาตรฐานการบีบหัวใจไว้ขนาดนั้น มันก็ย่อมมีความคาดหวังว่าหนังเรื่องนี้จะมันหยด หรือคนดูอาจจะอยากเห็นมุมที่ อาชิน ใช้ชีวิตคนเดียวลุยผ่านซอมบี้มาได้อย่างไร จนมาเจอกับฝ่าบาทในซีรีส์ Kingdom เสียมากกว่า แต่เรื่องของอาชินก็นำเสนอในมุมที่ต่างออกไปจากความคาดหวัง แต่ก็เป็นมุมที่น่าสนใจ แตกต่างจากซีรีส์ซอมบี้ของฝั่งตะวันตกอย่าง THE WALKING DEAD ซึ่งตอนนี้เราก็น่าจะยังไม่รู้เลยว่าซอมบี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไรจนตอนนี้บทออกทะเลไปไหนต่อไหนแล้ว
แห่งหนังแนวแก้แค้นแบบสะใจตามสไตน์ของเกาหลี นี่คือปฐมบทแห่งความโกลาหลซอมบี้ล้างเมือง โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากหญิงสาวคนหนึ่งจากภาคเหนือ หญิงสาวที่ภายในจิตใจเต็มไปด้วยไฟแห่งความเคียดแค้น และนี่คือการปรากฏตัวของสตรีลึกลับในตอนจบของซีรีส์ซีซั่น 2 ที่จะมาพร้อมกับการเฉลยว่าดอกไม้ปีศาจนั้นคืออะไร และอะไรคือจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายในเกาหลีแห่งยุคราชวงศ์โซซอน ติดตามรับชมจากรีวิวนี้ได้เลยครับ
หลังจากฉากบีบหัวใจสุด ๆ และความเหี้ยมของซอมบี้ใน Season 2 ผสมกับปมต่าง ๆ ที่ถูกไขจากหนังเรื่องนี้ ผมมองว่าใน Season 3 จะมีการเล่าเรื่องที่ต่างออกไปจาก หนังและซีรีส์ซอมบี้เรื่องอื่น ๆ ทั้งหมด (ทั้งหมดในที่นี้ผมขอยกเว้นเรื่อง Game of Throne ไว้ 1 เรื่อง เพราะคิดว่าอาจจะมีความใกล้เคียงแน่ ๆ แต่เรื่องคงไม่ยาวเท่า GOT และคงไม่มี หัวหน้าซอมบี้แบบ Night King ด้วย)
ด้านโปรดักชันยอมรับว่าผู้กำกับ คิมซองฮุน นั้นคุมซีรีส์สเกลใหญ่มาได้อย่างดีแล้ว พอมาทำเป็นหนังก็ยิ่งอยู่มือเข้าไปอีก เพราะเขาจับจุดเน้นได้ไม่จำเป็นต้องพึ่งฉากใหญ่โตอลังการมากแต่คุมโทน ทำให้ผู้ชมดิ่งจมราวกับไปอยู่ในป่าชายแดนโชซอนได้อย่างอิ่มอารมณ์ มีฉากโชว์ มีฉากเน้นสวย คือประสบผลดีทั้งด้านสุนทรียะและด้านความบันเทิง ยิ่งการเล่าเรื่องอันซับซ้อนมีการเมืองหลายฝักฝ่ายในพื้นที่เดียวที่มาจากปากกาของคิมอึนฮีนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำให้เล่าเรื่องได้ง่าย แต่คิมซองฮุนกลับทำได้ดีทีเดียว และที่ชื่นชอบมาก ๆ คือการใช้กิมมิกสิ่งของอย่างเช่น ธนูที่นางเอกเคยเห็นก็เฉลยเรื่องราวบางอย่างได้ ทำให้หนังมีความลื่นไหลและเท่ในการเล่าเรื่องด้วย ดูหนังออนไลน์ ดูหนังออนไลน์