รีวิวหนังnetflix Howl’s Moving Castle (2004)
เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับหญิงสาวเจ้าของร้านหมวกนามว่า “โซฟี” ที่ต้องคำสาปให้กลายเป็นหญิงชราโดยแม่มดแห่งทุ่งร้างซึ่งเป็นแม่มดที่ขึ้นชื่อเรื่องความน่ากลัว เธอจึงต้องออกจากบ้านเพื่อหาที่อยู่ใหม่ที่ห่างไกล ดูหนังออนไลน์ จากผู้คนที่รู้จักและได้เจอกับเจ้าหุ่นไล่กาหัวผักกาดที่ ดูหนังฟรี นำทางเธอให้ไปเจอกับปราสาทเวทมนตร์ของฮาวล์ผู้มีฉายาว่าเจ้าชู้ ไม่รักจริงและกินหัวใจของหญิงสาวเป็นอาหาร ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่มีโฆษณา
เรื่องราวในนั้น มันมีทั้งคอนเซ็ปต์ของปราสาทเคลื่อนที่
(แต่หนนี้ใช้เวทมนตร์) มันมีทั้งเรื่องความรัก เรื่องของความเชื่อมั่นในตัวเอง การมองผู้อื่นที่ภายในภายนอก นอกเหนือไปจากงานแอนิเมชันภาพสวย เพลงประกอบไพเราะ เรื่องราวของสาวทำหมวกนามว่า โซฟี เธอขลุกอยู่ในห้องทำแต่หมวกอันเป็นกิจการของครอบครัว แต่ว่าวันหนึ่งขณะที่เดินตามหาใครสักคนอยู่ในตรอก เธอก็ได้พบกับเขา พ่อมดฮาวล์ผู้มีชื่อเสียงที่ใครๆ ต่างก็หวาดกลัวว่าตนเองจะถูกพ่อมดคนนี้กินหัวใจไป
ความรู้สึกแรกที่ได้รับหลังจากดู Howl’s Moving Castle (2004) คือความรู้สึกดี อบอุ่นภายในใจ และรู้สึกแฮปปี้กับความสัมพันธ์ของตัวละครหลัก แม้ว่าจะไม่ใช่อนิเมะที่เน้นเรื่องราวรักโรแมนติกเป็นหลัก สิ่งที่น่าสนใจคือการที่ตัวละครแต่ละตัวมีความสับสนและกังวลในจิตใจและไม่สามารถละทิ้งมันไปได้ แต่ในท้ายที่สุดพวกเขาก็ก้าวข้ามความรู้สึกนี้และมีความสุขกับชีวิตในขณะนั้น
สำหรับ Howl’s Moving Castle (2004) เป็นอนิเมะที่ดำเนินเรื่องราวไปเรื่อย ๆ ตามสไตล์ของสตูดิโอจิบลิ เราจึงจะได้ซึมซับบรรยากาศของความแฟนตาซีได้อย่างเต็มอิ่ม สิ่งหนึ่งที่ชอบในส่วนของโครงเรื่องคือคาแรคเตอร์ของคุณยายโซฟีเพราะถึงแม้เธอจะโดนสาปแต่เธอก็มีทัศนคติที่เป็นบวกมาก ๆ จนทำให้เธอกล้าที่จะทำอะไรหลาย ๆ อย่างและมีความมั่นใจในตัวเองขึ้นมา
ข้อสังเกตอย่างหนึ่งก็คือ เขาเลือกจะวาดให้บ้านเรือนรถเรือต่างๆ ของผู้คนนั้นดูเหมือนของที่เราใช้กันในโลกความจริง แต่เครื่องบินรบ เรือรบ กลับดูแปลกตาไม่เหมือนของจริง สิ่งที่สังเกตอีกอย่างคือ ร่างกายของโซฟีค่อยๆ สาวขึ้นโดยที่เธอไม่รู้ตัว ก่อนจะกลับไปแก่หง่อมอีกครั้ง ส่วนหุ่นไล่กานั้นน่ารักมากมาย ค่อยดูแลเอาใจใส่โซฟีอย่างดี
โซฟีไม่เคยมองว่าตัวเป็นผู้หญิงสวย เธอเอาแต่มองว่าตัวเองเป็นแค่แม่บ้าน แต่สิ่งที่เธอมีคือความรักที่ให้กับพ่อมดฮาวล์หมดใจ ไม่ว่าร่างจริงของเขาจะเป็นเช่นใดก็ตาม แต่ดูเหมือนยิ่งเธอมีความรู้สึกดีต่อตัวเองขึ้นมามากมายยิ่งขึ้นเท่าใด ร่างของเธอก็ยิ่งกลับกลายเข้ามาใกล้อายุจริงมากเท่านั้น
เป็นแอนิเมชันภาพสวยตามเคยสำหรับคอจิบลิที่ติดตามมาตลอด ก็คงจะพบว่า ตัวหนังมีความแตกต่างจากในนิยายมากมาย ด้วยการปรับบริบทและบทให้พอเล่าได้ยาวสองชั่วโมง แต่กระนั้น ก็ชมก็ต้องใช้เวลา ผ่านการดูรอบแล้วรอบเล่า อ่านข้อมูลเพิ่มเติม เทียบกับสิ่งที่อยู่ในหนังสือนิยาย ก็จะเริ่มเข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ
นิเมะบอกเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองของ “โซฟี” รีวิวหนังnetflix Howl’s Moving Castle (2004)
นางเอกของเรื่องที่เดิมทีเป็นเด็กสาววัย 18 ปี นิสัยขยันขันแข็ง มีอาชีพทำหมวกขายในร้านทำหมวกที่เธอรับช่วงต่อมาจากพ่อที่เสียชีวิตไปแล้ว โซฟีเป็นคนขาดความมั่นใจในตัวเอง เธอคิดว่าตัวเองเป็นคนไม่สวยและมีชีวิตที่น่าเบื่อ จนกระทั่งวันหนึ่งที่เธอกำลังตกอยู่ในอันตราย โซฟีถูกทหารสองคนทำท่าจะลวนลามเธอ “ฮาวล์”
ที่บังเอิญผ่านมาเห็นได้เข้ามาช่วยเหลือเธอไว้ ทำให้แม่มดแห่งทุ่งร้างที่แอบชอบฮาวล์อยู่เกิดความไม่พอใจและร่ายคำสาบให้โซฟีกลายเป็นคนแก่อายุ 90 ปี อนิเมะใช้เวลาไม่นานในการเล่าเรื่องราวในตอนต้น ดูไม่ยืดเยื้อและน่าติดตามดีค่ะ โดยข้าวหอมเห็นว่าความสนุกและน่าตื่นเต้นของเรื่องเริ่มต้นขึ้นจากตรงจุดนี้เลย เพราะมันทำให้เราอยากรู้ว่าโซฟีในวัย 90 ปี จะทำอะไรต่อไป
หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งนะคะถูกคำสาปทำให้ต้องกายเป็นหญิงชราอายุ 90 ปี และเธอได้มาพบกับพ่อมดหนุ่มสุดหล่อเจ้าเสน่ห์แต่ มีนิสัยที่ปากเสียเอาซะมากๆแถมอีโก้สูงรักฟ้าผู้ของปราสาทลอยฟ้าที่สามารถหายตัวแล้วก็เคลื่อนที่ได้นะคะ
หนังเรื่องนี้ดัดแปลงจากวรรณกรรมเยาวชนในชื่อเดียวกันสามารถหาอ่านได้ในฉบับต้นฉบับแล้วก็ในฉบับไทยตรวจของภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องนี้มีความโรแมนติกผสมกับแอ็คชั่นแล้วก็ผสมความเป็นญี่ปุ่นและตะวันตกเข้าด้วยกันอย่างดีแต่ที่จริงแล้วต้นฉบับเนี่ยมาจากตะวันตกนะแต่สามารถทำออกมาให้ดูญี่ปุ่นได้นิดนึงอ่ะถือว่าโอเคพอสมควรสำหรับค่าย
เรามาดูที่จุดเด่นของหนังเรื่องนี้เป็นการสร้างความน่ารักกุ๊กกิ๊กเคมีระหว่างพนาออกมาได้อย่างน่ารัก
ทั้งที่นางเอกถูกสาปเป็นคนแก่แต่แอดมินไม่รู้สึกว่าเค้าเป็นแม่ลูกกันเลยนะแห้งรู้สึกว่าเค้ามึงมีความเป็นแบบเป็นแฟนกันวัยเดียวกันออกมาลงตัวน่าติดตามแล้วก็พัฒนาการความสัมพันธ์แล้วก็ความคิดของตัวเราเองเนี่ยก็ตามระดับอายุของเธอด้วยช่วงชีวิตของเธอในช่วงที่เป็นวัยชราก็ไม่ได้แย่เสมอไปถึงแม้ว่าความคล่องแคลความคล่องตัวของวัยสาวจะหายไปแต่ด้วยสติปัญญาแล้วก็ความนุ่มลึกความสุขุมความเงียบความเป็นผู้ใหญ่ก็เข้ามาทดแทนแล้วก็ใช้ตัดสินปัญหาได้ในหลายหลายเรื่อง
ที่จริงแล้วตัวของพระเอกเองเนี่ยเป็นพ่อมดแต่ที่จริงแล้วเค้าไม่เป็นพ่อมดมาก่อนนะเค้าเป็นแค่ติดผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่ทำสัญญาแลกชีวิตจับปีศาจไฟนั่นเองตัวของพระเอกเนี่ยถือว่าถูกคาดหวังพอสมควรข้าหลวงสูงมากเพราะว่ามันเป็นความสำเร็จของหนังเรื่องนี้เลยมันเป็นตัวเดินเรื่องของหนังเรื่องนี
สำหรับค่ายสามารถทำวรรณกรรมตะวันตกออกมาได้ถือว่าดีมากๆมันสามารถสร้างความสำเร็จให้กับใครได้อย่างมากแต่ในบาง. เรื่องก็อาจจะไม่สมบูรณ์เท่าที่ควรแต่ก็ต้องเข้าใจเพราะเขาเป็นค่ายหนังของประเทศญี่ปุ่นเค้าไม่สามารถทำหนังตะวันตกออกมาได้ร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้วทุกคนก็จะต้องคิดตรงนี้ไว้ด้วยนะคะ
และแน่นอนถ้าเป็นแฟนของหนังสือเรื่องนี้ก็ต้องอดที่จะเปรียบเทียบไปได้ยังไงเมื่อเขา เนื้อหาจากในวรรณกรรมบอกมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นแล้วมาจากไทยญี่ปุ่นแล้วเนี่ยมันก็ต้องมีการเปรียบเทียบเป็นธรรมดาแต่อยากให้ทุกคนรวยว่าหนังเรื่องนี้สามารถกวาดรายได้เป็นอันดับที่สองของสตูดิโอเลยนะคะไม่ใช่ย่อยนะ
ในเรื่ององค์ประกอบของภาพก็ดีตามมาตรฐานของสตูโอ เพลงที่ใช้ประกอบก็ติดหูและน่าฟังจนสามารถทำให้ผู้ชมต้องกลับไปหาฟังเองหลังดูจบ เช่น เพลง Merry go round ที่เป็น Theme song ของ Howl’s Moving Castle (2004) โดย Merry go round เป็นเพลงที่มีเมโลดี้ที่ดูสดใส แต่แฝงไปด้วยประกายของความหม่นหมองในจิตใจ ครั้งแรกที่ได้ฟังเพลงนี้ก็รู้สึกว่าเพลงกำลังสื่อถึงเรื่องราวในชีวิตที่ทุกคนได้พบเจอมา
บางครั้งก็เป็นเรื่องที่ดี บางครั้งก็เป็นเรื่องที่ไม่ดีปะปนกันไปเพราะชีวิตมีขึ้นมีลงตามจังหวะของมัน สิ่งที่เราทำได้คือการปล่อยใจให้สบายและไหลไปตามท่วงทำนองของชีวิต แม้ว่าจะต้องประสบกับความทุกข์หรือสิ่งที่เป็นเคราะห์กรรมตามความเชื่อ แต่สุดท้ายแล้วหากเราเชื่อและมีความหวังว่าเราจะผ่านไปได้
ความหวังและความปรารถนาก็จะประสบผล ส่วนตัวคิดว่าเพลงนี้สื่อถึงการเติบโตในทุกช่วงอายุ และการมีชีวิตอยู่ เหมือนกับม้าหมุน (Merry-go-round) ในสนามเด็กเล่นที่เด็ก ๆ ชอบและมีความสุขทุกครั้งที่ได้นั่ง เราก็แค่ต้องปล่อยให้มันเป็นไปและพยายามทำให้ตัวเองสนุกกับชีวิตบ้าง แม้ชีวิตในแต่ละวันจะย่ำแย่แค่ไหน แต่หากเรายังชีวิตอยู่ก็ต้องดิ้นรนและพยายามต่อไป สิ่งหนึ่งที่อาจทำให้ Theme song ของ Howl’s Moving Castle (2004) ให้ความรู้สึกเศร้าและหม่นหมองนิดหน่อยเพราะในเรื่องจะมีพื้นหลังเป็นการทำสงคราม
สิ่งที่ประทับใจมากที่สุดหลังจากดู รีวิวหนังnetflix Howl’s Moving Castle (2004)
คือคาแรคเตอร์ของโซฟี เพราะในตอนแรกโซฟีเป็นหญิงสาวที่ใช้ชีวิตแบบมีแบบแผนและดูเป็นผู้ใหญ่โดยเธอรับช่วงต่อร้านทำหมวกของพ่อเพราะเธอเป็นลูกคนโตและคิดว่าควรทำต่อเพราะพ่อของเธอรักมันมาก จนน้องสาวเธอก็บอกว่าให้ใช้ชีวิตของตัวเองบ้างนะ ทำเพื่อตัวเองบ้าง และในวันนั้นเองที่เธอกำลังเดินทางไปเยี่ยมน้องสาว เธอก็ได้พบกับฮาวล์พ่อมดหนุ่มที่เข้ามาช่วยเธอไม่ให้โดนทหารพูดจา แทะโลมเธอ และในตอนนั้นเองโซฟีก็รู้สึกได้ว่าตนเองได้ตกหลุมรักพ่อมดฮาวล์เข้าแล้ว เธอพูดคุยเรื่องนี้กับน้องสาวเธอ เพราะน้องสาวเธอเป็นห่วงที่อยู่ดี ๆ โซฟีอยู่กับพ่อมด
น้องสาวเธอบอกว่า “ถ้านั่นเป็นพ่อมดฮาวล์ เขาคงกินมันเลย” โซฟีตอบน้องสาวว่า “ไม่หรอก เขาชอบแต่คนสวย” ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโซฟีไม่มีความมั่นใจในตนเอง คาแรคเตอร์ของโซฟีในช่วงเริ่มเรื่องนั้นจะเป็นหญิงสาวที่มีชีวิตประจำวันแบบเดิมซ้ำ ๆ เธอไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานอย่างวัยรุ่นคนอื่น ๆ และตัวเธอเองก็ไม่มีความมั่นใจในตัวเองด้วย แต่น่าแปลกหลังจากที่เธอโดนสาปให้เป็นหญิงชรา แทนที่เธอจะเสียศูนย์และทำอะไรต่อไม่ได้แต่กลับกลายเป็นว่าเธอช่วยตัวเองด้วยการที่คิดบวกและคิดว่าเธอแก่ก็จริง แต่เธอยังมีแขนและสองขาที่แข็งแรงที่สามารถเดินได้ หลังจากนั้นเธอจึงออกจากบ้านแล้วเริ่มต้นเดินทางด้วยตนเอง
ซึ่งถ้าเป็นก่อนหน้านี้เธออาจไม่ทำแน่ ๆ เธอใช้ชีวิตผจญภัยในแบบไม่มีใครสามารถคาดคิดได้ จนบางครั้งก็ทำให้เราคิดว่าที่ผ่านมาเราใช้ชีวิตโดยยึดหลักกับอะไรมากเกินไปหรือเปล่า เราได้ชีวิตในแบบที่เราชอบแล้วหรือยัง เราควรกล้าที่จะเดินออกจากเซฟโซนของตนเองแล้วทำสิ่งต่าง ๆ ตามที่ต้องการโดยพกความกล้าหาญและความมั่นใจไปด้วย แม้หนทางข้างหน้าจะเต็มไปด้วยเรื่องที่ไม่คาดคิด แค่นั่นก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราได้เติบโตและเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตแบบโลกใบนี้ ในท้ายที่สุดโซฟีก็มีความมั่นใจ เธอทำในสิ่งที่ต้องการและรู้สึกและในที่สุดเธอก็หลุดพ้นจากคำสาป
หญิงสาวชื่อ “โซฟี” เธอเป็นคนที่เก่งและรักสะอาด
เมื่อเธอได้พบกับพ่อมดหนุ่มหล่อ “ฮาวล์” โดยบังเอิญ ในสายตาผู้คนและผู้หญิงในเมืองต่างคิดว่า พ่อมดฮาวล์นั้นจะเอาหัวใจของผู้หยิงสวย ๆ ไป แต่กับโซฟีนั้นคือกกับไม่กลัวพอมดฮาวล์ เพราะเธอคิดว่าเธอไม่สวยพอที่ฮาวล์จะมาหลอกเอาหัวใจจเธอไป เมื่อตอนกลางคืนเธอได้กับถึงบ้านและได้มีแม่มดแห่งทุ่งร้างได้ตามเธอมาพร้อมกับสาปให้เธอกลายเป็นคนชรา โดยที่ตัวแม่มดแห่งทุ่งร้างเองก็ไม่รู้วิธีแก้คำสาปนั้น “โซฟี” จึงออกจากบ้านและไปหาที่อยู่ใหม่ตัวคนเดียวและเธอก็ได้พบกับ หุ่นไล่กา ตัวหนึ่งที่ถูกสาปด้วยเช่นกัน หุ่นไล่กาตัวนั้นจึงคอยตามโซฟีและช่วยเหลือเธอตลอดและเธอ ก็ได้ที่พักเป็นปราสาทของฮาวล์
ในปราสาทนั้นมี แคลซิเฟอร์ (เป็นปีศาจไฟที่คอยเคลื่อนที่ปราสาทไปเรื่อย ๆ) และเด็กหนุ่มที่ชื่อ “มาร์เคิล” ที่อสศัยอยู่กับฮาวล์และคอยเฝ้าปราสาทอยู่ตลอดในปราสาทจะเชื่อมต่อกับ บ้านในเมื่องต่าง ๆ แต่เมื่อโซฟีได้พบกับฮาวล์จริง ๆ แล้วแต่เขาก็เป็นคนใจดีมาก ๆ ส่วนฮาวล์ก็อาจจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่า หยิงชราที่เข้ามาปราสาทของเขานั้น เธอคือ “โซฟี” ที่โดนคำสาปให้กลายเป็นหญิงชรา และฮาวล์เองก็ต้องออกไปต่อสู้กับยานรบและผู้ใช้เวทมนตร์คนอื่น ๆ โดยการต่อสู้ของฮาวล์นั้นเขาจะต้อง กลายร่างเป็นปีศาจข้อเสียคือเขาจะต้องสูญเสียความเป็นตัวเองและจะกลายเป็นปีศาจไป
ความรู้สึกแรกที่ได้รับหลังจากดู Howl’s Moving Castle (2004) คือความรู้สึกดี อบอุ่นภายในใจ และรู้สึกแฮปปี้กับความสัมพันธ์ของตัวละครหลัก แม้ว่าจะไม่ใช่อนิเมะที่เน้นเรื่องราวรักโรแมนติกเป็นหลัก สิ่งที่น่าสนใจคือการที่ตัวละครแต่ละตัวมีความสับสนและกังวลในจิตใจและไม่สามารถละทิ้งมันไปได้ แต่ในท้ายที่สุดพวกเขาก็ก้าวข้ามความรู้สึกนี้และมีความสุขกับชีวิตในขณะนั้น สำหรับ Howl’s Moving Castle (2004) เป็นอนิเมะที่ดำเนินเรื่องราวไปเรื่อย ๆ ตามสไตล์ของสตูดิโอจิบลิ เราจึงจะได้ซึมซับบรรยากาศของความแฟนตาซีได้อย่างเต็มอิ่ม สิ่งหนึ่งที่ชอบในส่วนของโครงเรื่องคือคาแรคเตอร์ของคุณยายโซฟีเพราะถึงแม้เธอจะโดนสาปแต่เธอก็มีทัศนคติที่เป็นบวกมาก ๆ จนทำให้เธอกล้าที่จะทำอะไรหลาย ๆ อย่างและมีความมั่นใจในตัวเองขึ้นมา
อีกอย่างที่ประทับใจคือคาแรคเตอร์ของพ่อมดฮาวล์ เพราะมีเสน่ห์ อ่อนไหว ดูเจ้าชู้ ที่สำคัญเป็นคนไม่รักความสะอาด สังเกตได้จากปราสาทที่รกมาก ๆ พ่อมดฮาวล์เป็นพระเอกที่ไม่ได้มีนิสัยที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งส่วนใหญ่พระเอกในหนัง ซีรีย์ หรืออนิเมะ จะเข้มแข็งและพึ่งได้ แต่พ่อมดฮาวล์นั้นแตกต่างออกไป คาแรคเตอร์ของฮาวล์จะโชว์มุมที่อ่อนแอ สับสนในตนเองและเกรี้ยวกราด (นิดหน่อย) ซึ่งทำให้คาแรคเตอร์มีเสน่ห์และเข้าถึงง่าย ในส่วนตอนจบเป็นตอนจบที่แฮปปี้ ตัวละครทุกตัวได้ข้ามผ่านปัญหาและปมของตนเอง เรียนรู้ที่จะให้อภัยและรักตัวเองมากขึ้น อย่างที่รู้ว่า Howl’s Moving Castle (2004) ดัดแปลงมาจากนิยาย ซึ่งในนิยายต้นฉบับจะมีภาคต่อของเรื่องนี้อยู่คือ Castle in the air ภาค 2 และ House of Many Ways ภาค 3 โดยภาคต่อทั้งสองเล่มจะเป็นหนังสือในชุดเดียวกันกับ Howl’s Moving Castle แต่จะมีเรื่องเป็นของตนเองและไม่ได้ต่อจาก Howl’s Moving Castle หากใครสนใจก็ลองไปหาซื้อกันได้