รีวิวหนังnetflix Clickbait
รีวิวหนังnetflix Clickbait นิก บรูว์เออร์ สามีและคุณพ่อของลูกชาย 2 คน เขาน่าจะมีครอบครัวที่ดีเช่นแฟมิลีแมนตามปกติ แต่แล้วเช้าวันหนึ่งเขาก็หายตัวไปพร้อมกับปรากฏตัวในคลิปไวรัลที่มีภาพตัวเขาถูกซ้อมและชูป้ายที่มีข้อความว่า เขาเคยทำร้ายและฆ่าผู้หญิง และหากยอดวิวคลิปนี้ถึง 5 ล้านการเข้าชม เขาจะถูกฆ่าตาย ปริศนาถาโถมใส่ครอบครัวของนิก รวมถึง เพีย น้องสาวของนิกที่ยังคงศรัทธาในตัวพี่ชายและออกตามหาความจริงให้ถึงที่สุดเพื่อช่วยพี่ชายของเธอ เว็บดูหนัง
นักกายภาพบำบัดแห่งทีมโอ๊คแลนด์ลิงซ์ มหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์ ชายที่เป็นทั้งพ่อ สามี พี่ชาย ลูกชาย และเพื่อนที่แสนดี ถูกลักพาตัวไป แล้วไปโผล่ในคลิปปริศนาที่เขาสารภาพว่าเคยล่วงละเมิดและใช้กำลังกับผู้หญิง ในคลิปนิกกำลังถือป้ายบอกว่า ถ้ายอดวิวถึงห้าล้านวิวเมื่อไร่ เขาจะต้องตาย ครอบครัวของเขาทั้งภรรยา โซเฟีย (รับบทโดย เบตตี้ เกเบรียล) และน้องสาวเพีย (รับบทโดย โซอี้ คาแซน)
จึงต้องพยายามไขปริศนาและหาว่าใครอยู่เบื้องหลังอาชญากรรมครั้งนี้ Clickbait เป็นซีรีส์เรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในครอบครัวเป็นเรื่องราวใกล้ตัวมาก ๆ ดูแล้วสร้างความเชื่อมโยงได้ไม่ยาก มีด้วยกันทั้งหมด 8 ตอน เว็บดูหนังฟรี
ซีรีส์เรื่องนี้หยิบจับเรื่องราวอาชญากรรมผ่านโลกออนไลน์มาเป็นจุดขายด้วยพล็อตเรื่องแนวคนร้ายจับคนไปถ่ายวิดีโอเรียกยอดวิวถ้าถึงเป้าก็ตาย ซึ่งอาจจะไม่ใหม่นักเพราะพวกแนวการ์ตูนญี่ปุ่นก็มีอะไรแบบนี้เหมือนกัน แต่ก็ต้องบอกว่าสำหรับเรื่องนี้แตกต่างออกไปมาก แม้พล็อตเรื่องอาจจะดูเหมือนแนวอาชญากรไซเบอร์ร้ายๆ เน้นไวรัลหวือหวา แต่เนื้อหาจริงๆ ของเรื่องกลับลงลึกและเน้นสะท้อนปัญหาสังคมมากกว่าจะไปมุ่งเน้นที่ความหวือหวาตามพล็อตเรื่องที่วางไว้
เนื้อเรื่องเริ่มจากนิคพ่อบ้านลูกสองที่แต่งงานกับสาวผิวดำใช้ชีวิตอย่างมีความสุข อยู่ๆ เขาก็ไปปรากฎตัวบนในวิดีโอบนโซเชียลพร้อมกับถือป้ายว่าเขาเป็นฆาตกรฆ่าผู้หญิง และถ้าคนดูคลิปนี้ครบ 5 ล้านเขาจะตาย ซึ่งครอบครัวของนิคก็ต้องค้นหาคำตอบว่านิคอยู่ที่ไหน และเรื่องที่ปรากฎในวิดีโอเป็นความจริงหรือไม่
ต้องชื่นชม โทนี่ อายร์ส (Tony Ayres) และ คริสเตียน ไวท์ (Christian White) สองผู้สร้างที่หาวิธีเล่าได้ลงตัว โดยเฉพาะรายหลังเคยเขียนบทหนัง ‘Relic’ (2020) ที่ตีความโรคชราได้อย่างสร้างสรรค์ ใน ‘Clickbait’ เองแม้หน้าหนังจะดูเป็นหนังแนวสืบสวนไซเบอร์ แต่เนื้อในก็ยังคือหนังที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ในครอบครัวที่มักมีความลับ หนังฟรี
มีความไม่ไว้ใจระหว่างกัน และถูกเอามาเป็นเชื้อในยามเกิดความบาดหมาง เช่นการหายตัวไปของใครสักคนได้อย่างดี และความแข็งแกร่งของเส้นเรื่องกับตัวละครนี้ล่ะ ที่เอามาเล่าพลิกแพลงอย่างไรก็ยังสนุก
การดำเนินเรื่องแปลกใหม่ เดาทางไม่ได้ มีด้วยกันทั้งหมดแปดตอน ทุกตอนน่าติดตาม เพราะแต่ละตอนจะเป็นเรื่องราวของตัวละครหนึ่งตัวที่เกี่ยวข้องนิก บรูเวอร์ เช่นตอนแรกเป็นตอนของน้องสาว ตามด้วยนักสืบ ภรรยา นักข่าว ลูกชาย และอื่น ๆ แต่ละตอนจบได้น่าติดตาม แถมยังเชื่อมโยงไปยังตอนต่อไปแบบต่อเนื่องลื่นไหล จุดเด่นอีกจุดของเรื่องคือมีพล็อตที่น่าสนใจ เป็นเรื่องราวอาชญากรรมสุดลึกลับ ที่ดูไปถึงตอนท้าย ๆ ยังไม่รู้ว่าสาเหตุคืออะไร แล้วใครคือผู้ต้องสงสัย แล้วสรุปนิกเป็นคนยังไงเนี่ย เพราะจากมุมมองของแต่ละคนในแต่ละตอนทำให้ความคิดเกี่ยวกับนิกเปลี่ยนไปได้ตลอด
เนื้อเรื่องกับชื่อเรื่องอาจจะทำให้เข้าใจผิดว่าซีรีส์เรื่องนี้ดำเนินไปแบบเน้นนับถอยหลังยอดวิวแตะ 5 ล้าน แต่ผิดคาดที่ซีรีส์เรื่องจบเรื่องราวตามพล็อตเพียงแค่ตอนแรกทันที ซึ่งในตอนแรกนี่เนื้อเรื่องไวแบบติดจรวดเพราะแค่เปิดมาไม่ถึง 5 นาทีแรกก็เข้าเรื่องราวที่นิคโดนจับไปพร้อมเกิดไวรัลลามไปทั่วประเทศแล้ว ซึ่งหลังจากจบตอนแรกนี่แหละคือผลลัพธ์ของสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องราวจริงๆ ของเรื่องนี้ที่ผู้สร้างต้องการขายผลกระทบของคดีดังในยุคนี้ที่มักเกิดจากกระแสในโลกออนไลน์ปั่นกันจนทำให้เรื่องราวบ้าคลั่งขึ้นเรื่อยๆ
ซีรีส์ในแต่ละตอนจะตั้งชื่อตามตัวละครที่จะเป็นมุมมองหลักในการเล่าของตอนนั้น ๆ เช่น ตอนแรกชื่อตอน น้องสาว ก็จะเล่าผ่านสายตาตัวละครหลักอย่าง เพีย (ซู คาซาน (Zoe Kazan) จาก ‘The Big Sick’) น้องสาวแท้ ๆ ของ นิก (เอเดรียน เกรเนียร์ (Adrian Grenier) จาก ‘The Devil Wears Prada’) พี่ชายของเพียที่ได้หายตัวไป หนังใหม่
เราได้เห็นความสัมพันธ์ของเธอและวิธีคิดที่เพียมีต่อนิกไปพร้อมกับสถานการณ์ที่เดินไปข้างหน้า เมื่อนิกปรากฏเป็นคลิปไวรัลปริศนา เธอคือคนที่สติแตกและเชื่อมั่นในตัวพี่ชายที่สุดพร้อมไล่ล่าทุกความจริงเพื่อช่วยชีวิตพี่ชาย
และจุดสำคัญคือเธอยังเป็นตัวแทนของผู้ชมในการพาไปรู้จักตัวละครอื่น ๆ ที่รายล้อมเรื่องราวอยู่ ทั้ง โซเฟีย พี่สะใภ้ของเธอ (เบ็ตตี กาเบรียล (Betty Gabriel) จาก ‘Get Out’) อีธานและไค หลานชายทั้งสอง หรือ โรชาน ตำรวจที่กำลังเดตกับเธอ เป็นต้น สาเหตุหนึ่งที่เธอกลายเป็นผู้นำเสนอในตอนแรก เพราะเธอเป็นเหมือนศูนย์กลางของเรื่องที่ให้ผู้ชมเกาะติดตามเรื่องราวไปได้โดยไม่สับสนนั่นเอง
รีวิวหนังnetflix Clickbait
ตัวเรื่องแบ่งแต่ละตอนเป็นเรื่องราวของตัวละครในเรื่องแต่ละคน ตั้งแต่คนในครอบครัวนิค น้องสาว ภรรยา ลูก ตำรวจ นักข่าว ซึ่งทุกตัวละครจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับปมปริศนาในเรื่องนี้แทบทั้งหมด โดยมีแฟลชแบ็คกับการเล่าแบ็คกราวด์ตัวละครบ้าง แต่ก็ยังเล่าเรื่องราวการสืบสวนคดีของนิคต่อไปเรื่อยๆ ด้วย โดยตัวหลักของการสืบสวนจะเป็น “เพีย” น้องสาวของนิค (รับบทโดย Zoe Kazan) กับ “โรชาน” ตำรวจมุสลิมที่อยู่แผนกคดีคนหาย และกำลังใช้คดีนี้ไต่เต้าไปยังแผนกฆาตกรรมที่สูงกว่า แต่กลับโดนคนในสถานีกีดกัน มีปมแทรกการเมืองในวงการตำรวจไว้เล็กๆ
ซึ่งเพียกับโรชานคือตัวละครหลักที่ผลัดกันสืบสวนคดีนี้แลกเปลี่ยนข้อมูลกันตลอดเรื่อง โดยเพียมีผู้ช่วยเป็นแฮ็กเกอร์เด็กที่มีกลุ่มไขคดีนี้ช่วยอีกแรง โดยช่วยเจาะข้อมูลบางอย่างมาให้ตามที่เพียต้องการ ซึ่งโรชานก็รับไม้ต่อไปสืบสวนลงลึกต่อไป โดยทั้งคู่ก็มีซัมติงกันเล็กๆ หยอดไว้นิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้เน้นเรื่องรักมากแบบพระเอกนาง แค่เป็นตัวเอกหลักที่ทำหน้าที่เดินหน้าสืบสวนร่วมกันเท่านั้น
คดีในเรื่องนี้เริ่มมาจากวิดีโอออนไลน์ แต่ตัวเรื่องก็ไม่ได้จบเพียงแค่นั้น และยังใช้เรื่องราวในโลกออนไลน์กับเทคโนโลยีใหม่ๆ หลายอย่างมาร่วมในเรื่อง อย่างการค้นหานิคผ่านแอปที่ระดมคนมาช่วยตรวจสอบพื้นที่ในเมือง (คล้ายๆ โปเกมอนโก) การแฮ็กเข้าไปดูข้อมูลส่วนตัวในโซเชียล การสวมรอยตัวตน ตัดต่อภาพวิดีโอ เลียนเสียง ความสัมพันธ์ในโลกออนไลน์ ซึ่งตัวเรื่องแทรกเรื่องเทคโนโลยีไว้ตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้ดูเป็นซีรีส์สืบสวนที่ทันสมัยเหมือนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงได้ในยุคนี้ และยังนำเสนอผลกระทบของการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ไปในทางที่ผิด จนส่งผลร้ายจากจุดเล็กไปสู่เรื่องใหญ่เกินคาด โดยเป็นเหตุการณ์ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้จริงๆ ด้วย แม้จะมีความเว่อร์อยู่นิดๆ ดูหนังฟรี
เมื่อเปลี่ยนตอนไป และมุมมองการเล่าเรื่องก็เปลี่ยนไปยังตัวละครใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น ตอนที่ชื่อตำรวจ ภรรยา หรือชื่ออื่น ๆ สิ่งที่ทำได้แปลกใหม่สำหรับหนังแนวที่เปลี่ยนมุมมองของตัวละคร เดิมจะมักใช้เพื่อเล่าย้ำเหตุการณ์เก่า แต่เปลี่ยนมุมมองการรับรู้ให้เห็นแง่มุมที่แตกต่างเปลี่ยนไปเมื่อเปลี่ยนตัวละคร แต่กับเรื่องนี้ตัวละครนำของตอนจะเป็นผู้ผลักเรื่องให้เดินต่อไปข้างหน้าเรื่อย ๆ การวางแผนวางบทกำหนดเส้นเรื่องและผลกระทบที่ตัวละครจะส่งต่อกันไปเมื่อเปลี่ยนตอนนั้น จึงเป็นอะไรที่น่าสนุกทั้งคนคิดบทและคนดู ดังนั้นสำคัญทีเดียวที่อย่าพยายามไปดูชื่อตอนหลัง ๆ เพื่อป้องกันการคิดไปล่วงหน้าก่อนว่าตัวละครไหนจะมีมีส่วนเกี่ยวข้อง
ซีรีส์อาจใส่ความหลากหลายที่หนังยุคใหม่ต้องมีนำเสนอมาอย่างครบครันทั้ง LGBTQ มุสลิม คนผิวดำ คนเอเชีย เนิร์ด ฮิคิโคโมริ น่าจะมีคนชายขอบหลากประเภทที่สุดในเรื่องเดียวเลยทีเดียว ต้องยอมรับว่าหนังหลายเรื่องพยายามใส่พวกนี้เข้ามาแต่ไม่เข้ากับเรื่องจนคนดูรู้สึกฝืน ซึ่งกับเรื่องนี้ก็มีความรู้สึกขืนแบบนั้นอยู่บ้าง แต่หลายตัวละครก็ใส่มาได้ลงตัวเหมาะกับสถานการณ์ดีมาก ๆ จนเรามองข้ามความรู้สึกยัดเยียดไปได้
กล่าวถึงจุดแข็งต่าง ๆ ไปเยอะแล้ว ถามว่าอะไรเป็นจุดแข็งที่สุดของเรื่องล่ะ มันคือความสนุกในการติดตามหาความจริงนี่ล่ะ แม้มุกพวกเวลาจำกัดบีบบังคับตัวละครอย่างเมื่อยอดวิวครบ 5 ล้านวิว ตัวละครจะถูกฆ่าจะไม่ได้ถูกเอามาใช้ตลอดทั้งเรื่อง แต่แค่ความจริงใหม่ ๆ ที่ถูกเผยผ่านตัวละครต่าง ๆ ขึ้นมาเรื่อย ๆ มันก็น่าตกใจและชวนให้อยากรู้บทสรุปจริง ๆ เรียกว่าสมองได้ทำงานกันเต็มกำลังเลยทีเดียวระหว่างดู ทั้งต้องคอยมองหาพิรุธต่างๆ และความเป็นไปได้อื่น ๆ เพื่อไตร่ตรองว่าสรุปคน ๆ นี้ โดยเฉพาะตัว นิก เอง พวกเขาคือคนดีหรือคนไม่ดีกันแน่
และบอกได้เลยว่าบทสรุปของเรื่องนั้น ยากจะคาดเดามาก ๆ รวมถึงเมื่อเรารู้ทั้งหมดแล้วมันก็ชี้ชวนให้เราคิดไปในเรื่องรอบ ๆ ตัวเรา หนังที่หยิบเอาชีวิตที่ถูกเทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์คนรอบตัวได้อย่างมหาศาลในขณะนี้ อาจเป็นหนึ่งในโศกนาฏกรรมที่เข้ายุคเข้าสมัยทีสุดทีเดียว
นอกจากแนวสืบสวนกับการใช้เทคโนโลยีในเรื่องแล้ว ตัวเรื่องก็เดินหน้าด้วยดราม่าครอบครัวแบบเรียลๆ เมื่อเรื่องค่อยๆ เฉลยความจริงเบื้องหลังของนิคขึ้นมาเรื่อยๆ ทำให้ภาพลักษณ์พ่อที่แสนดีค่อยๆ พังทะลายลง แม้จะยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าเขาผิดตามในคลิปที่ออกมาจริงหรือไม่ก็ตาม ตัวนิคจึงเป็นทั้งตัวร้ายกับเหยื่อให้คนดูชั่งใจตัดสินเขาไปเรื่อยๆ จากข้อมูลในเรื่องที่ค่อยๆ เฉลยออกมา ซึ่งตัวเรื่องก็นำเสนอผลกระทบของเหตุการณ์ลงลึกในหลายด้าน โดยเฉพาะจากสื่อกับสังคมโซเชียล ในเคสนี้คดีใหญ่เป็นที่สนใจทั่วประเทศ ทำให้ครอบครัวนี้ถูกตามติดจากสื่อจนถึงขั้นละเมิดสิทธิส่วนตัว
ซึ่งเรื่องก็มีแบ่งให้นักข่าวเป็นตัวเอกหนึ่งตอนแทบจะเต็มๆ เพื่อนำเสนอการทำงานของสื่อในยุคนี้ที่กระหายข่าวจนทำยังไงก็ได้ให้ได้มาซึ่งสกู๊ปเด็ด แม้จะต้องละเมิดสิทธิคนอื่นก็ตาม รวมถึงการแก่งแย่งชิงดีกันในสื่อเองด้วย ซึ่งตัวเรื่องในตอนนี้ทำออกมาดีมาก แทบจะเป็นตอนที่ทั้งขุดคุ้ยกับตอกหน้าการทำงานของสื่อแย่ๆ ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี แต่ก็น่าเสียดายที่บทของนักข่าวในตอนนี้จบลงแบบห้วนๆ ทั้งๆ ที่พยายามปูกระทั่งความสัมพันธ์แบบชายรักชายของตัวเอกในตอนนี้ไว้เยอะ ดูหนังออนไลน์