รีวิวหนังnetflix Bubble บับเบิ้ล
จะเกิดอะไรขึ้น…ถ้าหากว่าโลกถูกจู่โจมจาก ‘ฟองสบู่’ ปริศนาที่ทำให้ทุกอย่างเลวร้ายไปหมด เป็นคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจและกลายมาเป็นหนังอนิเมะญี่ปุ่นเรื่องล่าสุดใน “Bubble” ที่มาพร้อมกับสีสันไอเดียพาเพลิน ดูหนังออนไลน์แม้ว่าพล็อตต่าง ๆ จะค่อนข้างสำเร็จรูปตามสูตร มีช่องโหว่มากมายเต็มไปหมดดูหนังฟรีแต่ก็ยังสามารถขยายเรื่องราวออกมาได้อย่างจับใจและตระการตาไปตลอดทางดูหนังออนไลน์ฟรีไม่มีโฆษณา
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นเมื่อจู่ๆ เกิดมีฟองสบู่ประหลาดตกลงมาจากท้องฟ้ากลางกรุงโตเกียว
จากนั้นฟองสบู่ปริศนาเหล่านี้ ก็ได้ทำให้แรงโน้มถ่วงของกรุงโตเกียวเปลี่ยนไป จนทำให้ผู้คนอาศัยอยู่ไม่ได้จนท้ายที่สุด กรุงโตเกียวก็ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก จากนั้นเวลาผ่านไป 5 ปี กรุงโตเกียวได้เปลี่ยนกลายเป็นสนามเด็กเล่นของเหล่าวัยรุ่นที่สูญเสียครอบครัวและไม่มีที่ไป ซึ่งเหล่าเด็กพวกนี้จะมีการแข่งขันฟรีรันนิ่งและพนันกัน ใครเป็นฝ่ายชนะก็จะได้ของไป ซึ่งของที่ใช้ในการเดิมพันจะเป็นอะไรก็ได้
ไม่ว่าของใช้ทั่วไปหรืออาหาร โดยในกรุงโตเกียวจะมีทีมนักวิ่งแบ่งออกเป็นหลายทีม แต่เรื่องราวจะติดตามเด็กชายที่ชื่อว่า ฮิบิกิ เด็กหนุ่มที่มีฝีมือการฟรีรันนิ่งดีที่สุดในเมืองโตเกียว วันหนึ่งเขาเกิดพลัดตกลงไปในทะเลที่เกิดแรงโน้มถ่วงบิดโค้ง ก่อนที่สุดท้ายเขาจะได้รับการช่วยเหลือโดยเด็กหญิงปริศนา จากนั้น ฮิบิกิ ก็ได้พาเด็กสาวคนนี้กลับไปที่บ้าน เธอไม่มีชื่อ เขาจึงตั้งชื่อให้เธอว่า ยูตะ จากนั้นทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงประหลาด ซึ่งมีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่ได้ยินเสียงนี้ จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำทั้งคู่ต้องช่วยกันออกตามหาที่มาของเสียงประหลาดนี้ ซึ่งหารู้ไม่ว่าพวกเขากำลังจะเปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล
อนิเมะงานสร้างระดับลงฉายทางโรงภาพยนต์จากสตูดิโอ WIT รีวิวหนังnetflix Bubble บับเบิ้ล
ที่มีผลงานล่าสุด Attack on Titan: Chronicle ร่วมกับผู้กำกับ เท็ตสึโระ อารากิ ที่กำกับไตตันฉบับโรงมาเช่นกัน เรื่องนี้คือทำฉายบน Netflix โดยตรงก่อนแล้วค่อยฉายโรงที่ญี่ปุ่นในเดือนพฤษภาคมภายหลัง ด้วยเรื่องราวที่เกี่ยวกับโตเกียวถูกน้ำท่วมทำให้อดคิดถึงผลงานของ มาโกโตะ ชิงไก ใน Weathering With You ฤดูฝัน ฉันมีเธอ ไม่ได้เลยจริงๆ มันดูคล้ายกันมาก แม้สูตรสำเร็จอเนิเมะญี่ปุ่นจะมาแนวๆ นี้กันหมดว่าด้วยหนุ่มสาววัยรุ่นมาพบเจอกันโดยมีพลังพิเศษมาเกี่ยวข้อง แต่ก็ต้องบอกว่าเมื่อเทียบกันแล้วงานของมาโกโตะ ซิงไก บทมันละเมียดละไมล้ำลึกกว่ามาก ซึ่งเรื่องนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คนจะอินหรือไม่อินได้เลย
เมื่ออยู่ดีๆ โตเกียวถูกครอบด้วยฟองสบู่ขนาดยักษ์ที่ทำให้แรงโน้มถ่วงเปลี่ยนไปเป็นหย่อมๆ แบบที่คนดูก็ไม่สามารถเข้าใจ เพราะเหมือนจะมีผลกับแค่บางคนในเรื่องเท่านั้น ผู้คนเลยอพยพหนีหมด เหล่าวัยรุ่นที่ไม่รู้ทำงานทำการอะไรได้หนีเข้าไปอยู่และจัดแข่งปากัวร์กันเพื่อแลกของรางวัลที่ไม่รู้ใครสนับสนุน ไม่มีที่มาที่ไปของเงิน ตรวจสอบไม่ได้ พระเอกของเราเป็นผู้มีพรสวรรค์ในการปากัวร์มากๆ เพราะมีความสามารถพิเศษคือได้ยินเสียงฟองอากาศ ช่วยชี้ทางในการปากัวร์ได้เทพกว่าคนอื่นๆ วันหนึ่งพระเอกประสบอุบัติเหตุปากัวร์แล้วตกน้ำ แต่มีสาวลึกลับมาช่วยไว้ และเธอคนนั้นดันรู้จักเสียงเดียวกับที่เด็กหนุ่มได้ยินจากฟองสบู่
เป็นเรื่องราวเกิดขึ้นโดยมีจุดเริ่มต้นจากเหตุการณ์หายนะที่ใจกลางกรุงโตเกียว เมื่อปรากฏการณ์ประหลาดที่มีลักษณะเป็นฟองสบู่ตกลงมาจากฟากฟ้าเหมือนสายฟ้าเข้าโจมตีเมืองใหญ่ ก่อนฟองเหล่านั้นจะแตะออกและครอบคลุมทั้งเมืองให้กลายเป็นพื้นที่ไร้แรงโน้มถ่วง นับตั้งแต่นั้นว่ากรุงโตเกียวถูกทิ้งร้าง และไม่ใช่เมืองหลวงของญี่ปุ่นอีกต่อ ฮิบิกิ เด็กหนุ่มบ้าบิ่นแต่มีพรสวรรค์ เขาบังเอิญได้ตกลงไปในหลุมบ่วงแรงโน้มถ่วง ก่อนที่จะได้พบกับ อุตะ เด็กสาวที่มีพลังลักลับมาช่วยชีวิตเขาเอาไว้ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเชื่อมโยงพวกเขาเข้าเอาไว้ด้วยกันอย่างน่ามหัศจรรย์
นี่คือผลงานล่าสุดของผู้กำกับ “เทสึโระ อารากิ” (จาก Attack on Titan และ Kabaneri of the Iron Fortress) ที่นับได้ว่าปรับเปลี่ยนแนวเดิมของเขามาสู่แอนิเมชั่นแฟนตาซีเลิศล้ำด้วยจินตนาการเรื่องนี้ ที่ถือว่าเขาก็ยังคงคอนเซ็ปต์แนวถนัดของเขาเข้ามาใส่เป็นองค์ประกอบเสริมได้ช่วยส่งเสริมตัวหนังทั้งเรื่องได้เป็นอย่างดี หนังยังมาพร้อมกับไอเดียและแนวคิดที่ค่อนข้างตื่นตาตื่นใจ แม้ว่าจะยืนอยู่บนพื้นฐานของสูตรสำเร็จเดิม ๆ ตามแบบฉบับอนิเมะญี่ปุ่น
Bubble ได้นักเขียนบทอนิเมะมือดีอย่าง “เกน อูโระบูชิ” (จาก Psycho-Pass และ Kamen Rider Gaim)
ที่ถือว่าขัดเกลาบทหนังออกมาได้ค่อนข้างน่าพอใจ โดยเฉพาะการหยิบเอาไว้ไอเดียโดดเด่นระหว่างวัฒนธรรมอนิเมะฉบับญี่ปุ่น มาผูกเข้ากับตำนานเทพนิยายคลาสสิกระดับสากล ที่เห็นได้ชัดจากในหนังเรื่องนี้เลยก็คือการหยิบยืมกลิ่นอายของ “The Little Mermaid” เข้ามาเป็นโครงสร้างคร่าว ๆ วางเป็นพื้นฐาน
เริ่มที่อย่างแรกเรื่องบทและการดำเนินเรื่อง บทของอนิเมะเรื่องนี้น่าสนใจตรงที่นำเสนอโลกที่ล่มสลายควบคู่มากับกีฬาฟรีรันนิ่ง ซึ่งแปลกและเท่ดี และการที่โลกล่มสลายด้วยฟองสบู่ประหลาดก็น่าติดตามพอสมควร และสุดท้ายเมื่อเฉลยว่าเป็นเอเลี่ยน ก็ยังพอสมเหตุสมผลอยู่พอสมควร ในด้านการดำเนินเรื่อง ส่วนตัวผมรู้สึกว่าดำเนินเรื่องจืดชืดไปซักหน่อย เหมือนยังขาดเรื่องพล็อตหลักๆ ที่ทำให้คนดูอยากตาม รู้สึกว่าเล่าไปเรื่อยๆ ดูไปเรื่อยๆมากกว่า ไม่ได้น่าติดตามมากเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับแย่ ถือว่าพอดูได้เพลินๆ
ต่อมาด้านงานภาพ ด้านนี้คงต้องคุยกันยาว ส่วนตัวผมว่าทำงานภาพออกมาได้สวยดีระดับนึง จะแบ่งเป็นฉากกับตัวละครแล้วกัน ในด้านงานฉากหลัง ลายเส้น แสงเงาต่างๆ ทำออกมาได้ดีมากๆแล้ว ผมชอบมาก สวยดี ส่วนลายเส้นของตัวละครก็ทำออกมาได้ดี แต่มันไปได้สุดและสวยได้มากกว่านี้ แต่เท่านี้ก็ดีมากๆแล้ว เอาง่ายๆ งานภาพของเรื่องนี้คือดีพอที่จะฉายโรงได้สบายๆเลย งานภาพสวยจริงๆ ใครที่ชอบอนิเมะภาพสวยๆ ห้ามพลาดจริงๆ ต่อมาด้านการเคลื่อนไหวตัวละคร เรื่องนี้ทำออกมาได้ดีเลย การขยับ การเคลื่อนไหวของตัวละครออกมาเลื่อนไหล ซึ่งพล็อคหลักคือเน้นไปที่กีฬาฟรีรันนิ่งอยู่แล้ว จึงไม่แปลกที่จะใส่ใจในเรื่องนี้
ตัวละครของบับเบิ้ลคือ ฮิบิกิ กับ อุตะ ที่ฝ่ายพระเอกคือเด็กหนุ่มผู้หลีกหนีปัญหาภายนอกรวมถึงเสียงดังต่างๆ ในเมืองที่รบกวนเขามาอยู่ในโลกบับเบิ้ลของโตเกียวที่ถูกน้ำท่วมกับมีแรงโน้มถ่วงที่ผิดปกติ ที่ซึ่งเขากลายเป็นเทพปากัวร์ (ฟรีรันนิ่ง) ที่ช่วยทีมทำให้ชนะการเดิมพันด้วยของใช้ในชีวิตประจำวันกับทีมอื่นมาตลอด ซึ่งคนที่อยู่ในนี้ล้วนแล้วแต่เป็นพวกเด็กวัยรุ่นหนีปัญหามามาใช้ชีวิตอิสระที่นี่ทั้งนั้น
ส่วน อุตะ คือสาวน้อยที่เกิดจากบับเบิ้ล ที่หลงรักฮิบิกิแต่แรกเจอ แล้วก็พยายามช่วยเขาจากอุบัติเหตุจนกลายมาเป็นสมาชิกในทีมที่มีฝีมืออีกคน แต่เธอก็เป็นตัวละครไขความลับปริศนาต่างๆ ของเรื่อง ในเวลาต่อมา ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับ อามาโนะ ฮินะ ใน Weathering With You แต่ระดับความลึกของเรื่องต่างกันราวฟ้ากับเหว เพราะบับเบิ้ลสร้างโลกขึ้นมาใหม่แบบมีแต่ปริศนาที่ไม่ได้คิดจะเก็บรายละเอียดอธิบายอะไรเลยให้เป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่าง พระเอกไปฝึกจากที่ไหนมา จู่ๆ เปิดมาก็เก่งเลยโดยไม่มีย้อนความใดๆ เกี่ยวกับปาร์กัวทั้งสิ้น
การใช้ชีวิตในเรื่องว่าแต่ละคนไปเอาของใช้มาจากไหนก็ไม่มีบอก (เมืองน้ำท่วมพังเสียหายหมด)
มีแค่เลี้ยงไก่ไว้กินไข่ให้ดู ทีมตัวร้ายปาร์กัวใส่หน้ากากเป็นใครมาจากไหนยังไง ทำไมมีรองเท้าพิเศษกว่าคนอื่นก็ไม่มีรายละเอียดเลย หรือแม้แต่หัวใจหลักของเรื่องบับเบิ้ลมาจากไหน มันคืออะไร ในเรื่องพยายามเล่าแบบอ้อมๆ ว่าทุกอย่างเป็นวัฎจักรก้นหอยเหมือนจักรวาลต้องมาหลอมรวมกัน แต่มันก็ไม่ได้สื่อหรือให้คำตอบอะไรเลยว่าบับเบิ้ลตกลงมาทำไม ที่โตเกียวทำไมมีบับเบิ้ลขังไว้ คือเรื่องแทบจะให้คนดูใช้จินตนาการคิดเอาเองทั้งหมด
ซึ่งบอกตรงๆ ว่ามันไม่เวิร์คเลยกับการใส่เรื่องมาหลวมๆ แล้วโยนให้คนดูไปคิดเอาเองทั้งหมดแบบนี้ คือถ้าต้องตีความมันก็ควรมีหลักการอะไรยึดโยงให้เห็นบ้าง ในเรื่องนี่เหมือนแค่อยากเล่าเรื่องรักวัยรุ่นแฟนตาซีแล้วก็เลยใส่แบ็คกราวด์แนวไซไฟหลวมๆ เข้ามาให้ได้ขายงานภาพที่น่าตื่นเต้นเท่านั้นเองจริงๆ
งานภาพเรื่องนี้คือดีแบบมากๆ โดยเฉพาะฉากปากัวร์ที่เป็นฉากโชว์ของของเรื่องนี้ ที่ต้องมีการติดตามการเคลื่อนไหวพร้อมท่าทางที่ดูแล้วต้อทึ่งว่านี่เป็นผลงาน 2D Animation แล้วทำได้อลังการขนาดนี้ อีกพาร์ทที่ทำให้หลายคนประทับใจคือเพลงประกอบของเรื่องนี้ที่ทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของหนังเลย แต่ปัญหาอยุ๋ที่พาร์ทเนื้อเรื่องที่เหมือนเอาหลายๆ อย่างมาปะติดปะต่อกันโดยขาดรากฐานที่มั่นคง โดยเฉพาะการปากัวร์ของเรื่องที่เราไม่ทราบสาเหตุที่แต่ละคนเลือกมาปากัวร์ รวมถึงกฎกติกาการชนะ เหตุผลการที่หนีจากโลกภายนอกมาอยู่ในบับเบิ้ล เมื่อขดรากฐานที่แข็งแรงเลยทำให้เนื้อเรื่องส่วนอื่นๆ ดร็อปไปหมด
การเล่าเรื่องของ Bubble ถือว่าสนุกชวนติดตามใช้ได้ รีวิวหนังnetflix Bubble บับเบิ้ล
เพราะหนังก็ดำเนินเรื่องไปตามสูตรสำเร็จอยู่แล้ว แม้ว่าจะซ้ำซากอยู่ในหลายจุด แต่หนังก็มอบอรรถรสที่น่าสนใจกับคนดูได้เป็นอย่างดี และเมื่อผนวกเข้ากับงานออกแบบและงานสร้างอนิเมะในหนังเรื่องนี้ กลายเป็นส่วนช่วยส่งเสริมกันและกันได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นสีสันและดีไซน์ที่ตระการตา งานค่อนข้างดีจนแอบเสียดายว่าหนังเรื่องนี้ควรจะมีโอกาสให้คนดูได้มีประสบการณ์ชมในโรงภาพยนตร์ด้วยซ้ำ
อีกจุดที่น่าค่อนข้างน่าพอใจในหนัง Bubble ก็คือการสร้างมิติและองค์ประกอบของคาแรกเตอร์ตัวละครหลักของเรื่องนี้ ที่ค่อนข้างถ่ายทอดออกมาได้แข็งแรงในระดับที่ดี ไม่ใช่แค่เพียงตัวละครหลัก อย่าง ฮิบิกี หรือ อุตะ เพียงเท่านั้น ตัวละครสมทบอื่น ๆ ที่อยู่ในหนังก็มีการเกลี่ยให้กับความสำคัญได้แทบจะทุกคาแรกเตอร์ดี และเป็นในฟังก์ชั่นเล็ก ๆ ที่ช่วยมาส่วนเสริมภาพรวมของหนัง
ม้ว่าพล็อตอะไรต่าง ๆ ของหนังเรื่องนี้จะค่อนข้างเพ้อฝันและแฟนตาซีไปสักหน่อย แต่ก็ถือว่าหนังวางรากฐานและปูทางเอาไว้ได้ค่อนข้างสมเหตุสมผล และเกมการแข่งขันที่นำมาใส่เอาไว้เป็นแกนเสริมให้กับหนังเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นองค์ประกอบที่เข้าใจเลือกและเป็นจุดที่ช่วยบิวท์ความสนุกให้กับ Bubble ได้ค่อนข้างกลมกล่อม มันจึงกลายเป็นการผสมผสานอะไรหลาย ๆ อย่างเข้าเอาไว้ด้วยกันในหนังเรื่องเดียว ที่ให้รสชาติและประสบการณ์ที่น่าพอใจ
โดยภาพรวมแล้ว Bubble ถือว่าเป็นหนังแอนิเมชั่นจากญี่ปุ่นถือว่ายังทำออกมาได้ดีตามมาตรฐาน แม้ว่าความสดใหม่อะไรต่าง ๆ จะให้ได้ไม่เยอะนัก หนังยังมีอารมณ์ของหนังดัง ๆ แบบ Weathering with You หรือ Your Name. อะไรทำนองนั้นอยู่ แต่ด้วยความแข็งแรงในองค์ประกอบของคอนเทนท์ในหนังเรื่องนี้ ทำให้มีทิศทางในการเล่าเรื่องที่ชัดเจน และเล่าเรื่องไปได้ค่อนข้างสุดทางดี อีกทั้งงานออกแบบและดีไซน์ต่าง ๆ ก็ทำออกมาได้ค่อนข้างรู้สึกตื่นตาตลอดทั้งเรื่องดี จนอยากจะมีโอกาสได้ดูหนังเรื่องนี้บนจอใหญ่ ๆ ในโรงหนังเลยทีเดียว