สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวหนังไทยจาก Netflixมาใหม่ เรื่อง ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ (I Fine thank You And You) เป็นภาพยนต์ไทยแนว รักโรแมนติก และตลกคอมเมดี้ ซึ่งออกฉายไปเมื่อปี 2557 และยังได้ผู้กำกับอย่าง เมษ ธราธร ที่เคยกำกับเรื่อง ATM เออรัก เออเร่อ แถมยังได้นักแสดงสุดหล่อกวนอย่าง ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ มารับบทเป็นพระเอกอีกด้วย เรียกได้ว่าห้ามพลาดกันเลยทีเดียว ถ้าพร้อมชมรับและอ่านรีวิวแล้วก็ไปลุยกันเลยค้าา
เรื่องย่อ I Fine thank You And You
เรื่องราว ไอฟาย แต๊งกิ้ว เลิฟยู้ เรื่องย่อ เริ่มจากสาวญี่ปุ่นสุดเอ็กซ์ คายะ (โซระ อาโออิ จาก ปิดเทอมใหญ่.. หัวใจว้าวุ่น และหนังญี่ปุ่น AV อีกหลายเรื่อง) ต้องย้ายไปทำงานที่อเมริกาและต้องการบอกเลิกกับ ยิม (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ จาก เพื่อนสนิท) แฟนหนุ่มที่เป็นนายช่างหรือวิศวกรซ่อมบำรุงในโรงงานที่เธอทำอยู่ แต่เนื่องจากยิมสื่อสารภาษาอังกฤษไม่ได้เลย ในขณะที่คายะก็สื่อสารภาษาไทยไม่ได้เลยเช่นกัน คายะจึงต้องมาขอร้องให้ ครูเพลง (ไอซ์-ปรีชญา จาก ATM เออรัก เออเร่อ) ติวเตอร์ที่สอนภาษาอังกฤษให้เธอจนสอบสัมภาษณ์ได้ ช่วยเป็นสื่อกลางไปบอกเลิกกับยิมแทนเธอ
ครูเพลงตัดสินใจยอมช่วยเพราะคายะจ่ายค่าจ้างด้วยกระเป๋า Louis Vuitton Alma BB Monogram Vernis สีแดงสุดหรู (กระเป๋ารุ่นนี้สีนี้เราก็ชอบเองเป็นการส่วนตัว ยิ่งดูแล้วก็ยิ่งอยากได้) แต่พอเอาเข้าจริง เรื่องมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะยิมเป็นคนปากหมา โผงผาง กวนตีน และจริงจังกับคายะมาก แถมเรื่องพลิกโผ กลายเป็นยิมมาจ้างครูเพลงให้ช่วยติวภาษาอังกฤษให้แบบที่ติวให้คายะแบบตัวต่อตัว เพราะเขาต้องการสอบสัมภาษณ์และตามคายะไปทำงานที่อเมริกา ซึ่งการสอนยิมก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกนั่นแหละ เพราะยิมเป็นวิศวกรที่พื้นฐานภาษาแทบเป็นศูนย์ และทำให้ครูเพลงต้องปวดกบาลอยู่บ่อยๆ
และนอกจากจะต้องเจอกับลูกศิษย์สายห่ามอย่างนายช่างยิมแล้ว ติวเตอร์เพลงคนสวยยังต้องรับมือกับนักเรียนในคลาส Business Conversation ที่มาตามตื๊อเธอไม่เลิกอย่าง คุณพฤกษ์ อีกหนึ่งอัตรา (ตู่-ภพธร นักร้องคนดังที่มาเซอร์ไพรส์แฟนๆ หลายซีนเลยทีเดียว) ซึ่งจริงๆ แล้ว คุณพฤกษ์เป็นคนเพอร์เฟ็กต์ เป็นนักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อพ่อรวย ตอนแรกติวเตอร์สาวโสดเองก็เคลิบเคลิ้มไปกับเจ้าชายในฝันและหลวมตัวไปเล่นด้วยกับเขาอยู่หรอก แต่พอไปๆ มาๆ มารู้ทีหลังว่าเขาไม่ใช่ เรื่องมันก็เลยซับซ้อนเข้าไปอีก
พล็อตเรื่อง ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้
พล็อตครั้งใหม่ใน ไอฟาย แต๊งกิ้ว เลิฟยู เต็มเรื่อง คือการหยิบเรื่องความบกพร่องทางการสื่อสารระหว่างภาษาเอามาเป็นข้อแม้ในการเชื่อมความสัมพันธ์รัก ตัวหนังบอกเล่าเรื่องราวของ “เพลง” (ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร) ติวเตอร์ภาษาอังกฤษสาว ต้องพบกับเรื่องราวอันสุดแสนจะน่าปวดหัว เมื่อลูกศิษย์ชาวญี่ปุ่นของเธอตัดสินใจทิ้ง “ยิม” (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) แฟนหนุ่มคนไทยไปอเมริกา
แต่เนื่องจากยิมไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ เธอจึงบันทึกวิดีโออำลาไว้ในธัมบ์ไดรฟ์และขอให้เพลงช่วยแปลให้กับยิม เมื่อยิ่มรู้ว่าถูกทิ้งก็โกรธจัด จึงตัดสินใจสมัครเรียนภาษาอังกฤษกับ เปิ้ล (คำขู่บังคับ) โดยหวังว่าเขาจะได้ไปอเมริกาเพื่อคืนดีกับแฟนสาว
ในขณะเดียวกันเพลงยังคงตกหลุมรัก คุณพฤกษ์ (ตู่-ภพธร สุนทรญาณกิจ) นักเรียนอังกฤษธุรกิจ ชายหนุ่มรูปงามที่มีครอบครัวสุขสันต์ คือผู้ชายที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝันถึง จนสุดท้ายทั้งสองฝ่ายก็ตกลงเป็นแฟนกัน แต่ด้วยการสอนเพลงและการไปยิมค่อยๆ ทำให้คนสองคนที่แต่เดิมไม่ชอบหน้ากันทุกวัน พวกเขาเริ่มผูกพันและเริ่มพัฒนาความรู้สึกต่อกันโดยที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
เคมี ความเข้ากันของตัวละครพระเอก-นางเอก
เมื่อตัวละครเอกที่มีบุคลิกต่างกันมาพบกันผ่านภาษาอังกฤษ ด้วยเหตุนี้จึงนำไปสู่ความสัมพันธ์ในทันที ตัวละครหลักอย่างซันนี่เป็นคนขวานผ่าซาก หยาบกระด้าง ปากหมา Guanbata ที่ใช้คำสบถอย่างน้อยหนึ่งคำต่อทุกคำที่เขาพูด แต่เข้าคอนเซปผู้หญิงชอบผู้ชายเลวแบบเขาดีกับเราคนเดียวแถมยังปกป้องผู้หญิงด้วย เราว่าหนังสื่อถึงการสบถของตัวละคร จุดประสงค์เพื่อให้เขารู้ว่าบางครั้งคนเราก็ไม่ได้แย่เสมอไป ทุกคนมีมุมดี และไม่ดี
ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกมองและตัดสินคนจากด้านไหน อย่าเพิ่งตัดผู้ชายคนนั้นออกในครั้งแรก ส่วนนางเอกไอซ์ ปรีชญา ก็หน้าตาดี ฉลาดและรวยเว่อร์ เช่นเดียวกับสาวออฟฟิศที่ตามกระแส คุณซ้ง ตัวละครไอดอล บอกกับเราว่าคนสวยไม่จำเป็นต้องเรียบร้อยแต่ต้องมีความรู้และมั่นใจในตัวเองมากพอจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร น่าเสียดายที่ปัญหารักเบาบางเกินไป ผูกพันกันง่ายๆ อยู่ใกล้กัน ณ จุดนี้ รักกัน เราก็เลยไม่ชอบ เพราะเนื้อหาดูพยายามมากเกินไป
.
อีกแง่มุมหนึ่งที่ฉันอยากจะบอกก็คือภาพยนตร์เรื่องนี้มุ่งเน้นไปที่การผลิต เลือกที่จะถ่ายทอดมุมมองของโรงเรียนอังกฤษกับคนไทย ทีมงานตรวจสอบคำสำคัญในแต่ละประโยคอีกครั้ง และผลลัพธ์ค่อนข้างดี นอกจากนี้เมื่อผู้ฟังได้กลิ่นความรู้ภาษาอังกฤษ ตั้งแต่การออกเสียงพื้นฐาน (เช่น H, F, Z) คำทั่วไป (เช่น กระดาษทิชชู หลอด) และวลีที่มีประโยชน์ (เช่น แล้วคุณล่ะ ฉันคิดอย่างนั้นด้วย) ไปจนถึงคำที่คุณสามารถสบถได้ในชีวิตประจำวัน และการเลือกตัวเอกอย่าง ไอซ์ ปรีชญา ที่เก่งภาษา ทำให้เรื่องดำเนินต่อไปได้ คนต่างถิ่น แทนที่เขาเกิดดูไม่เหมือนอีกา เมื่อพวกเขามาถึงฉากในภาพยนตร์พวกเขาทำให้หนังดูตลก เตือนเราว่าเวลาเจอฝรั่งอยากทักอยากตอบแต่ไม่รู้จะตอบอะไร
.
อีกแง่มุมหนึ่งที่ฉันอยากจะบอกก็คือภาพยนตร์เรื่องนี้มุ่งเน้นไปที่การผลิต เลือกที่จะถ่ายทอดมุมมองของโรงเรียนอังกฤษกับคนไทย ทีมงานตรวจสอบคำสำคัญในแต่ละประโยคอีกครั้ง และผลลัพธ์ค่อนข้างดี นอกจากนี้เมื่อผู้ฟังได้กลิ่นความรู้ภาษาอังกฤษ ตั้งแต่การออกเสียงพื้นฐาน (เช่น H, F, Z) คำทั่วไป (เช่น กระดาษทิชชู หลอด) และวลีที่มีประโยชน์ (เช่น แล้วคุณล่ะ ฉันคิดอย่างนั้นด้วย) ไปจนถึงคำที่คุณสามารถสบถได้ในชีวิตประจำวัน และการเลือกตัวเอกอย่าง ไอซ์ ปรีชญา ที่เก่งภาษา ทำให้เรื่องดำเนินต่อไปได้ คนต่างถิ่น แทนที่เขาเกิดดูไม่เหมือนอีกา เมื่อพวกเขามาถึงฉากในภาพยนตร์พวกเขาทำให้หนังดูตลก เตือนเราว่าเวลาเจอฝรั่งอยากทักอยากตอบแต่ไม่รู้จะตอบอะไร
หนังแบ่งออกเป็น 2พาร์ทได้แอย่างชัดเจน อย่างเห็นได้ชัด
โทนของหนังสามารถแบ่งออกเป็นสองส่วนได้อย่างชัดเจน เมื่อภาคแรกของหนังทำออกมาได้อย่างน่าสนใจ (เกือบจะเป็น Sanche Toho) เนื่องจากมักจะโจมตีผู้ชมด้วยความซุกซนและพฤติกรรมไร้สาระของตัวละคร คลอด้วยเพลงประกอบของตัวละครที่กรีดร้องและตะโกนไม่แพ้หนังสยองขวัญ อย่างไรก็ตาม คุณจะพบกับเรื่องราวที่เต็มไปด้วยกับดัก เสียงหัวเราะ และขี้ฟัน สัตว์ไม่พึงประสงค์ล้นทะลักจนเป็นเรื่องตลกขบขันหรืออาจทำได้ ถูกกำหนดให้เป็น Dirty Joke หรือเรื่องตลกสกปรก
ปฏิเสธไม่ได้ว่า “การเหยียดเชื้อชาติ” ในทุกทิศทางยังสามารถใช้เพื่อล้อเลียนชีวิตที่น่าเบื่อของผู้คน ผู้หญิงญี่ปุ่น = ภาพตัวแทนของดาราหนังเอวี กรรมกร = ขาดความรู้ภาษาอังกฤษถึงขนาดจำ A-Z ไม่ได้ด้วยซ้ำ ทำตัวไม่ถูก คุณหญิงคุณนายชั้น = กระแทกกระทั้น ในชุดไทยโบราณ แม้แต่ผู้ชายในฝันของผู้หญิง = หนุ่มหล่อ มีเงินมีทอง
อย่างไรก็ตาม หนังยังพลิกผันเรื่องราวของชายในฝันอีกด้วย เนื้อเรื่องที่ซินเดอเรลล่าพบกับเจ้าชาย ผู้หญิงคนหนึ่งอาจต้องการช่างทำรองเท้าที่ดี และที่สำคัญกว่านั้นคือช่างทำรองเท้าที่ขาด นี่คือยิมนั่นเอง ต้องบอกว่ามีช่วงหนึ่งในเนื้อเรื่องที่ไอซ์-ซันนี่จับคู่กันในช่วงครึ่งหลังของหนัง เคมีของพวกเขาลงตัวและเข้มข้น แสดงด้วยท่าทาง
สรุปเนื้อหา และวิเคราะห์/วิจารณ์ ภาพยนต์เรื่อง ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้
หนังหยิบเอาปัญหาใหญ่ของคนไทยคือภาษาอังกฤษมาเล่าแบบตลกขบขัน เข้าถึงได้ ผสมกับโรแมนติกคอมเมดี้ ถึงจะพูดภาษาไทยได้ ภาษาก็ไม่ยาก ถ้าฝึกฝน หาจังหวะและโอกาสใช้ คุณสามารถฝึกฝนภาษาอังกฤษ ครูเผิงเปรียบเสมือนคนที่เข้ามาช่วยหยานพระเอกที่โดนแกล้งเพราะอากาศในวันหนึ่งของใบไม เพื่อขจัดความเบื่อหน่าย เขาทำงานหนักเพื่อทำตามหลักสูตรเร่งรัดของครูสอนดนตรี คนอังกฤษและคนไทยแปลก เช่น 1. ไม่ใช่สูตรตายตัว ทักษะและความสามารถของทุกคนไม่เท่ากัน ทุกคนไม่ได้เรียนรู้ในรูปแบบหรือระบบเดียวกัน บางคนอาจเรียนรู้ได้เร็ว ยังคงดูสภาพแวดล้อมและเรียนรู้หนังอย่างช้าๆ มีการเล่นมุกตลกที่ทำให้ผู้ชมหัวเราะและทำให้เรารู้สึกว่ามีบางอย่างในหนัง ช่วยกันตีมุขตลกของกันและกันโดยมีตัวละครข้างเคียงอย่างพี่โจ๊ก โซคูล และเพื่อนโรงงานตัวหลักมาร่วมด้วย
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม “i’m fine thank you and you เต็มเรื่อง” ก็เป็นหนังที่ให้ความบันเทิงส่งท้ายปีให้กับพี่น้องชาวไทยได้อย่างไม่เสียดายตังค์ และมีสิทธิทะลุ 200 ล้านบาทได้อย่างชิลๆ (ถ้าอาทิตย์หน้าไม่ถูกหนังไตรภาคฟอร์มยักษ์อย่าง The Hobbit: The Battle of the Five Armies แย่งกระแสไปมากนัก) เพราะอย่างน้อย เราเชื่อว่ายังคงมีคนอยากไปดู “ตามกระแส” อีกเยอะ เพราะมิฉะนั้น ถ้าไม่ได้ดู ก็คงจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง
วิเคราะห์และวิจารณ์หนัง ไอฟาย..แต๊งกิ้ว เลิฟยู้
น่าจะเป็นสไตล์ของ GTH “แอคชั่นเกินตัวและอินกับเมโลดราม่า” Rom (โรแมนติก) เป็นเรื่องตลกเชยๆ (เหมือนตัวตุ่นจริงๆ ฟังไปขำไป เหมือนไม่คิดว่าจะ–)ตลก) มุกอาจจะหลุดบ้างแต่ใส่แสงสีเสียงเยอะประกอบกับสีหน้าและเสียงของนักแสดงต้องเล่นใหญ่ไว้ก่อนเหมือนในรัชดาเธียเตอร์
ถ้ามองในแง่บันเทิงสไตล์เขาจะตลกเบาสมอง แต่สำหรับเรา เราว่ามุกบางฉากมัน “เวอร์ไป” เกินไปหน่อย อย่างฉากพี่โจ๊ก-โซคูล ก็ไม่เชิงนะ’ ไม่สำคัญเลย แต่เน้นวางบทก่อน คนดูชอบ