สวัสดีค่ะ วันนี้เรามารีวิวหนัง netflixมาใหม่ เรื่อง enola holmes 2 (เอโนลา โฮล์มส์ 2)เป็นภาพยนตร์ลึกลับในปี 2022 และเป็นภาคต่อของภาพยนตร์ Enola Holmes ในปี 2020 ซึ่งทั้งสองเรื่องนำแสดงโดย Millie Bobby Brown ซึงสามารถหาดูได้แล้ว แบบเต็มเรื่อง พากย์ไทยและซับไทย ในดูหนังออนไลน์ หรืออ่านรีวิวหนังก็อ่านได้ที่นี้
เรื่องราวหนัง enola holmes2
ตัวเรื่องของ ‘เอโนลา โฮล์มส์ 2 เต็มเรื่อง’ นั้นเรียกได้ว่าแทบจะต่อจากภาคแรกเลยครับ และก็ไม่ต้องมานั่งปูเรื่องให้เสียเวลา (มันเลยเป็นเหตุผลที่ควรจะดูภาคแรกมาก่อนนะครับ) ในภาคนี้ น้อง เอโนลา โฮล์มส์ (Millie Bobby Brown) โตเป็นสาวแล้ว หลังจากที่ไขคดีแรกสำเร็จ น้องก็เลยเลือกเป็นนักสืบแบบเดียวกับ เชอร์ล็อก โฮล์มส์ (Henry Cavill)
พี่ชายนักสืบชื่อดัง จนถึงขั้นเปิดสำนักงานนักสืบเป็นของตัวเอง แต่กลายเป็นว่า เส้นทางอาชีพนักสืบรับจ้างของเธอนั้นไม่ได้ง่ายดายนัก จนวันหนึ่ง สาวน้อยจากโรงงานไม้ขีดไฟได้ว่าจ้างเธอให้ไปตามหาพี่สาวที่หายไป แถมยังไปพัวพันกับคดีฆาตกรรมอีก ในขณะที่เชอร์ล็อกเองก็กำลังปวดหัวกับคดีทุจริตยักยอกเงิน ทำให้เอโนลาและเชอร์ล็อกต้องออกผจญภัยไขคดีร่วมกันเป็นครั้งแรก
ถ้าพูดถึงเรื่องหมัด ๆ เตะ ๆ ต้องบอกว่าทิศทางการเติบโตของ “enola holmes 2 พากย์ไทย” นั้นชัดเจนมาก แม้ว่าตัวหนังเองจะคงความอ่อนช้อยของตัวหนังเอง ทั้งน้องเอโนลา โฮล์มส์ ร่ายมนตร์และปริศนาตารางในรูปแบบต่างๆ เช่น การใช้แอนนาแกรมหรือการสลับอักษรเป็นคำใหม่ แม้แต่ฉากแอ็กชั่นผจญภัยที่เข้มข้นทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สนุก
เข้มข้น และ แม้กระทั่งประเด็นสตรีนิยม Women Friends เล่าผ่านอีโนลา ยูโดเรีย และสาว ๆ ที่ต้องถูกผลักดันและเอาชีวิตรอดจากกระแสสตรีนิยม เอาชีวิตรอดในโลกที่ขับเคลื่อนด้วยอำนาจและมุมมองของผู้ชาย และบรรทัดฐานหรือบรรทัดฐานอนุรักษ์นิยมของความเป็นหญิงในแบบฉบับของขุนนางอังกฤษ
พล็อตหนัง เอโนลา โฮล์มส์ 2
นี่คือความแตกต่างที่ชัดเจนใน Netflix enola holmes 2 ปรับขนาดทุกอย่างให้เติบโต หรือจะเรียกว่าเล่นใหญ่เล่นใหญ่ก็ได้ เริ่มด้วยการปรับโทนเรื่องให้เข้ากับสไตล์วรรณกรรมเยาวชน มันมีโทนของนวนิยายระทึกขวัญ แอ็คชั่น และการฆาตกรรมผู้ใหญ่ที่จริงจัง โหดกว่าเดิมสำหรับ น้องอีโนลา แก่แดดที่เรียกว่าโยนเด็กวัยใสสู่ความโหดของการเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวเป็นครั้งแรก แม้จะเป็นลูกนกแต่เธอก็แอบมีหญิงสาว กองแก้ว และนางฟ้าตัวน้อยอย่างลับๆ
แล้วมันก็เป็นผลพวงให้เรื่องราวรอบข้างของเอโนลาใหญ่โตขึ้น แข็งแรงขึ้น งานสร้างต่าง ๆ ที่ใหญ่ขึ้นกว่าภาคแรกอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งมันก็เป็นผลจากการที่ภาคแรกได้อธิบายปูมหลังเกี่ยวกับบ้านโฮล์มส์ และบรรยากาศของอังกฤษยุคโบราณไปแบบเบ็ดเสร็จหมดแล้ว ตัวหนังภาคนี้ก็เลยเน้นเดินเรื่องเร็วลุย ๆ แบบไม่ต้องคุยให้เสียเวลามากนัก ซึ่งผู้กำกับและทีมเขียนบทเองก็ถือว่าฉลาดที่จับจุดตรงนี้ได้ถูก และรู้ที่ทางในการวางกราฟเรื่องด้วยการขยายขนาดเรื่องราวออกไปไกล และเขย่าผสมรสชาติที่หลากหลายปนเปได้ออกมาบันเทิงได้อย่างตลอดรอดฝั่ง
ทั้งการตั้งหัวข้อและข้อความที่หนังต้องการจะสื่อก็ค่อนข้างชัดเจน ในภาคแรก เราได้เห็นอีโนลาถูกแม่สอนให้เอาตัวรอดด้วยวิธีต่างๆ นานา แต่ภาคนี้เรียกว่ากลับตาลปัตร เพราะตัวหนังเองก็ตอกกลับข้อความของภาคแรกว่าบางครั้งการพึ่งพาตัวเองมากเกินไปอาจทำให้ชีวิตลำบากและเปล่าเปลี่ยวได้ การพึ่งพาอาศัยผู้อื่นนั้นไม่บาป นี่อาจทำให้บทบาทฮีโร่ของอีโนลาจากภาคแรกหายไป แต่ก็ทำให้โครงเรื่องที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของอีโนลาน่าสนใจและมีหลายมิติมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังอาจสร้างเป็นฉากโรแมนติกระหว่างเด็กๆ ได้อีกด้วย ลอร์ด ทิวส์เบอรี (หลุยส์ พาร์ทริดจ์) สุดหล่อมีเรื่องราวมากมายในตอนนี้
จุดเด่นและเสน่ห์ของเรื่องนี้
สำหรับนักแสดงก็เป็นอีกจุดที่น่าพึงพอใจ เพราะตัวละครแต่ละตัวดูมีแนวทาง มีมิติ และมีจังหวะที่ลงตัวมากขึ้น และ Millie Bobby Brown ก็ยังเล่นได้สมบทบาทและน่าติดตาม เก่ง ฉลาด ตามวัย ผู้เขียนดูแล้วคิดว่าเธอเหมาะกับบทแบบนี้มาก ตัวละครสาวน้อยแปลก ๆ ที่ต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของตัวเองและอะไรทำนองนั้น ฉันนึกถึง Eleven จาก Stranger Things (หัวเราะ) เป็นเรื่องดีที่ได้เห็น Henry Cavill แสดงพลังนักสืบเหนือมนุษย์ของเขา เมื่อมันรุนแรง ผลของมันก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ได้เห็นความอ่อนโยน แอ็คชั่น และมุมหลวม ๆ ของเชอร์ล็อก โฮล์มส์มากขึ้น และเห็นเคมีระหว่างพี่น้องชัดเจนขึ้นและชอบในส่วนนี้ด้วย ไม่ถูกบดบังเหมือนภาคที่แล้ว
และนั่นถือเป็นเสน่ห์ของวงการ ผสมผสานนิยายกับประวัติศาสตร์จริง คราวนี้เป็นการนัดหยุดงานของ The Matchgirls ที่เกิดขึ้นจริงในอังกฤษในปี 1888 เนื่องจากสาวโรงงานหลายคนเสียชีวิตจากพิษจากฟอสฟอรัสขาวที่ใช้ทำไม้ขีดไฟ นอกจากภาพยนตร์แล้ว แอนนาแกรมและคณิตศาสตร์จะถูกดัดแปลงเป็นรหัสคดีของสองพี่น้องสองพี่น้องเพื่อไขคดีฉ้อโกงที่ซับซ้อน และเพื่อสร้างพล็อตเรื่องให้ผจญภัยได้น่าสนใจยังสอดแทรกเรื่องราวความขัดแย้งของสตรีเพศที่ถือเป็นจุดเด่นอีกประการของซีรีส์ ผ่านชีวิตที่ยากลำบากของแรงงานหนุ่มสาวที่ตกอยู่ภายใต้อำนาจของผู้ชายในช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรม ซึ่งไม่สามารถโต้แย้งได้มากนัก และสะท้อนถึงบทบาทของอีโนลาในการเป็นตัวแทน แสดงความสนใจของสังคมในการเสริมสร้างพลังอำนาจของผู้หญิง คำถามทาสและมีความคุ้มทุนมากกว่าภาคแรกอย่างแน่นอน
การดำเนินเรื่อง enola holmes 2
แม้ว่า enola holmes 2 ซับไทย จะยังคงใช้สูตรเดียวกับภาพยนตร์เรื่องแรก แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ทำได้ดีในการก้าวตามการเติบโตของตัวละคร กลายเป็นตัวละครนักสืบรุ่นเยาว์ แต่เห็นได้ชัดว่าเอโนลามีลำดับและพัฒนาการที่เป็นผู้ใหญ่กว่า แต่เธอก็ยังไม่สูญเสียลายเส้น และ เสน่ห์ของเธอในภาพยนตร์ ยังส่องแสงได้ดี
เมื่อมิลลี่ บ็อบบี้ บราวน์เริ่มบทบาทในการถ่ายทอดตัวละคร มันคือการแสดงบทบาทของเธอ ทำให้หลายอย่างเริ่มลื่นไหลเป็นธรรมชาติมากขึ้น. เธอมีความรู้สึกที่ดีขึ้นสำหรับท่าทางและจังหวะของการเป็นเอโนลา การออกแบบตัวละครไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก แต่ศักยภาพของมิลลี่ก็แบกหนังทั้งเรื่องไว้ได้อย่างสบายๆ
ในหมู่พวกเขา ภาคนี้โชคดีหน่อยที่มีตัวละครเสริมมาช่วยเพียบ โดยเฉพาะ “เฮนรี่ คาวิลล์” ภาคนี้ที่แทบจะย้ายไปเป็นตัวเอก และเชอร์ล็อก โฮล์มส์ก็ถ่ายทอดออกมาได้ดีในแบบฉบับของตัวเอง แม้จะเป็นรองแต่เขาก็ไม่เป็นสองรองใครอย่าง “หลุยส์ พาร์ทริดจ์” ที่กลับมาในแนวทางที่โตขึ้น แม้ว่าบทบาทของเขาในแผนกนี้จะไม่มาก แต่เป็นสีอื่นที่ประดับในภาพยนตร์เรื่องนี้
ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้เรื่องราวสืบสวนสอบสวนนี้น่าสนใจยิ่งขึ้น นี่คือจุดที่ตัวละครอย่างเชอร์ล็อกมีบทบาทเมื่อทำการสืบสวนที่ครอบคลุมมากขึ้น โดยเฉพาะภาคสองพี่น้องเชอร์ล็อค โฮล์มส์ ร่วมมือกันไขคดี ไม่ว่าจะเป็นการสนทนาระหว่างคู่รัก พวกเขาแบ่งปันหลักฐานที่แต่ละคนมี นอกจากช่วยอนุมานประเด็นต่าง ๆ จากการที่เชอร์ล็อกถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ในฐานะนักสืบให้กับอีโนลาแล้ว เรื่องราวยังทำให้เราได้เรียนรู้ความสัมพันธ์ระหว่างสองพี่น้องมากขึ้น
พร้อมกันนั้น เมื่อเนื้อหาของภาพยนตร์มีความเข้มข้นจริงจังมากขึ้น มันจึงส่งเสริมให้ฉากแอ็กชันของเรื่องก็ถูกตีบวกให้มีความจริงจังและดุดันมากขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะฉากแอ็กชันในช่วงสุดท้ายที่ผู้กำกับและทีมสร้างสามารถเกลี่ยบทบาท ของตัวละครออกมาได้อย่างเหมาะสม ไม่มีใครโดดเด่นมากน้อยไปกว่ากัน ก็ยิ่งทำให้ฉากแอ็กชันดังกล่าวสนุกสนานและชวนให้เราลุ้นไปกับตัวละครได้เป็นอย่างดี
ประเด็นดราม่า เอโนลา โฮล์มส์ 2
ปัญหาที่นอกเหนือไปจากความไม่เท่าเทียมทางเพศไม่ใช่เรื่องใหม่ อันที่จริง หนังย้อนยุคหลายเรื่องที่มีตัวเอกเป็นผู้หญิงมักจะเล่นประเด็นนี้ แต่เอโนลาแตกต่างออกไปเล็กน้อยตรงที่เธอมีพี่ชายที่มีชื่อเสียงอยู่ในมือ พี่ชายเองก็ไม่อยากให้น้องสาวมีอันตรายเหมือนเขาจึงพยายามกันเธอออกจากวงการสอบสวนเพราะกลัวกลายเป็นการแข่งขันเล็กๆ แนวพี่ชาย น้องสาวเคมีเข้ากันสุดๆ คนดูชอบดูโอ้ สิ่งที่ฉันทำตั้งแต่ตอนแรก แต่ในภาคนี้ยังมีฉากแบบนี้อีก ถึงจะไม่ใช่คู่จิ้นขนาดไหน แต่แฟน ๆ ก็น่าจะชอบนะ นั่นทำให้การต่อสู้ของ Enola เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นนักสืบที่แท้จริงบนฐานที่เท่าเทียมกับผู้ชายดูแตกต่างจากคำกล่าวอ้างของผู้หญิงคนอื่นๆ
นอกจากนี้คดีหลักของเรื่องแม้จะเป็นคนละคดีในตอนแรก แต่เรื่องก็ค่อย ๆ ผูกเข้าหากัน โดยที่ตัวคดีก็ยังพยายามเอาเรื่องจริงในประวัติศาสตร์ของการเรียกร้องสิทธิผู้หญิงในการทำงานมาเป็นพ้อยท์หลักเข้ากับเรื่องที่เอโนลากำลังพยายามทำอยู่ รวมถึงจุดเฉลยของเรื่องทั้งหมดก็เป็นเรื่องสิทธิสตรีกันตรง ๆ ซึ่งดูเข้าท่าอยู่ไม่น้อยกับการผูกปมเรื่องราวทั้งหมดเข้ากับธีมหลักได้ไม่หลุดเลยสักจุด
ฉากแอ็กชั่นในภาคนี้ก็ยังคงไม่มากไปกว่าภาคที่แล้ว อาจจะดูน้อยลงด้วย ทุกฉากจะออกมาเบาๆ เหมือนหนังย้อนยุคธรรมดาทั่วไป ไม่มีอะไรที่โลดโผนหรือดูแล้วใช้งบสร้างมากเท่าไหร่ เป็นฉากเล็กๆ ทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ
ตัวละครเก่าในภาคแรกกลับมาทั้งหมด และก็สานต่อเรื่องราวพัฒนาความสัมพันธ์กันโดยหลักๆ คือตัวเอโนลากับพระเอกภาคก่อนที่กลายเป็นท่านลอร์ดและเล่นการเมือง ซึ่งตัวเรื่องก็พยายามแทรกฉากรักโรแมนติกวัยรุ่นๆ แบบเฉียดฉิวจะจูบกันตลอด แต่ก็ไม่ได้จูบสักที พอลุ้นว่าเมื่อไหร่สองคนนี้จะลงเอยกันได้สักที
ปัญหาของเรื่องนี้ก็คงเหมือนกับการพยายามตีความเชอร์ล็อคหลายครั้ง ผู้ชมที่ดูภาคแรกและรับไหวจะได้พบกับตัวละครหลักของวายร้ายที่จินตนาการขึ้นใหม่ในสไตล์ดราม่าของ Netflix ถึงจะมีเหตุผลที่เข้ากับเนื้อเรื่องก็เถอะ
โดยรวมแล้วเป็นหนังภาคต่อที่ยังคงอารมณ์เดิม ๆ เราได้เห็นพัฒนาการการเติบโตของตัวละครให้แฟน ๆ ได้ติดตาม ผู้สร้างควรทำอย่างนั้นต่อไป อย่าจบง่าย ๆ แม้จะไม่รู้สึก เหมือนมีอะไรใหม่ๆ เกี่ยวกับมัน ไม่ว่าจะมีมากมายแค่ไหนก็ตาม
ถึงหนังจะมีประเด็นเครียดๆ อยู่บ้าง แต่ก็มีประเด็นดราม่าเรื่องความสัมพันธ์อยู่พอสมควร และคราวนี้รหัสคดีของหนังอยู่ไหน?นี่เป็นเงื่อนงำที่ค่อนข้างซับซ้อนและต้องใช้พลังงานอย่างมากในการดูให้จบ? แต่ตัวหนังเองก็ยังขับเคลื่อนด้วยคติสอนใจของหนังเบาสมอง เพราะเมื่อเรื่องราวคลี่คลายมากขึ้นก็สามารถสอดแทรกฉากแอคชั่น โครงเรื่อง และมุขตลกตามจังหวะให้ชวนคุยเล่นหัวได้มากกว่าเดิม นอกจากนี้ฉากสุดท้ายยังตัดเข้ามุมกล้องเป็นจังหวะได้ใจปากอีกด้วย เพื่อให้หนัง 130 นาทีได้อรรถรสและไม่ยืดเยื้อนานเกินไป
