รีวิวหนังnetflix My Hero Academia The Movie
จะเป็นเนื้อเรื่องในช่วงวันหยุดฤดูร้อนของโรงเรียน UA (ซึ่งไม่มีการระบุไทม์ไลน์ในอนิเมะหลักอย่างชัดเจนแต่คาดว่าน่าจะช่วงก่อนสอบใบอนุญาต) โดยออลไมท์นั้นได้รับเชิญให้ไปที่เกาะ ไอ ไอส์แลนด์ เกาะที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเหล่านักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย และสายสนับสนุนเหล่าฮีโร่ เพื่อเข้าร่วมงาน ไอ เอ็กซ์โปร ดูหนังออนไลน์ ซึ่งเป็นงานแสดงงานวิจัยอัตลักษณ์และอุปกรณ์ของเหล่าฮีโร่ชั้นนำของโลก! โดยในครั้งนี้ออลไมท์ก็ได้พาเดกุมาด้วย ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่มีโฆษณา
ภาคนี้โมเม้นก็ยังเยอะอีกเช่นเคยค่ะโดยเฉพาะบาคุกับเดกุ
แบบเดกุใกล้ม่องละบาคุก็โผล่มาช่วยพอดีหยั่งกะคอยหาจังหวะเข้าฉาก 555555 แต่เราว่าทุกตัวละครมีบทที่ดีมากๆ ดูหนังฟรี แบบขาดไปซักตัวนี่อาจแพ้อีกฝ่ายได้เลย และเรื่องนี้พวกโปรฮีโร่ก็บทน้อยด้วยเพราะเหมือนเกาะอยู่ไกลละต้องตามสืบคดีในเมืองกันอยู่ มีบทแค่ตอนเริ่มกับจบแค่นั้น(ตอนแรกไนน์ไปอาละวาดในเมืองก่อนที่จะรู้ว่าเด็กชายคนนั้นอยู่ที่เกาะ เพราะไปเจอพ่อของเด็ก เลยเปลี่ยนเป้าหมายแทน)
หนังแอนิเมชั่นจากญี่ปุ่นเรื่องนี้ มีแฟนรอคอยและติดตามมากไม่เบาทีเดียว ทั้งฉบับมังงะของอาจารย์ โฮริโคชิ โคเฮ ที่อยู่กลุ่มท็อปของนิตยสารอันดับหนึ่งอย่าง จัมป์วีคลี่ และอนิเมะซีรีส์ที่สร้างปรากฏการณ์มีซีซั่นใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่องไม่แพ้กัน ไม่เพียงแต่ในญี่ปุ่นเท่านั้นใครที่ตามเว็บเมืองนอกก็จะเห็นต่างชาติที่รู้จักและเป็นแฟนเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย
สำหรับฉบับ The Movie นี้ก็เป็นการนำขึ้นจอเงินครั้งแรก โดยได้ผู้กำกับ นางาซากิ เคนจิ ที่กำกับฉบับอนิเมะซีรีส์ และค่าย Bones ค่ายแอนิเมชั่นที่รับประกันคุณภาพงานได้อย่างดี มาปลุกปั้นเหล่าตัวละครโรงเรียนฮีโร่ให้โลดแล่นได้อย่าง มันสุดๆ โดยเนื้อหาจะเป็นเหมือนสปินออฟ ช่วงเวลาหยุดปิดเทอมของเหล่านักเรียนฮีโร่ที่จะมาเที่ยวงานเอ็กซ์โปวิทยาศาสตร์ระดับโลก แล้วต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากวิลเลี่ยนพวกตัวร้ายพลังพิเศษ โดยเหล่าฮีโร่ผู้ใหญ่ รวมถึงอาจารย์ของพระเอกอย่าง ออลไมท์ ต่างก็ถูกจับกุม เป็นหน้าที่ของเด็ก ๆ ที่ต้องรวมพลังแก้ปัญหาเฉพาะหน้านี้ให้จงได้
สำหรับใครที่ไม่เคยรู้จักเรื่องนี้มาก่อนเลย ก็พอจะจับเรื่องได้ครับ เพราะหนังมีการย้อนฉากที่มาที่ไปของพระเอกที่ชื่อ มิโดริยะ อิซึคุ หรือเพื่อน ๆ เรียกย่อว่า เดกุ มาเป็นระยะ ว่าโลกใบนี้มีประชากรส่วนใหญ่ที่มีอัตลักษณ์ ซึ่งเป็นคำเรียกของพลังพิเศษในโลกนี้ แต่พระเอกผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นฮีโร่ช่วยเหลือคนเช่นเดียวกับฮีโร่อันดับ 1 อย่างออลไมท์ กลับพบว่าเขานั้นเกิดมาไม่มีอัตลักษณ์เลย ทำให้เขาฝันสลายและใช้ชีวิตอย่างยอมรับความจริงว่าไม่มีวันได้เป็นฮีโร่
ตัวอนิเมะนั้นเรียกได้ว่ามีครบเครื่องจริงๆ รีวิวหนังnetflix My Hero Academia The Movie
เพราะว่าไม่ได้มีแต่ฉากแอคชั่นเท่านั้น แต่ยังมีโมเมนต์ตลก ดราม่าที่ถูกวางแผนและจัดสรรมาได้อย่างลงตัว ส่วนในเรื่องของเพลงประกอบนั้น ใครที่เคยได้ฟังเพลงประกอบของอนิเมะ My Hero Academia มาก็คงจะเดากันได้ว่าเพราะและเข้ากับฉากเป็นอย่างมาก โดยเพลงประกอบนี้ช่วยดีงอารมณ์ของแต่ละฉากให้กับคนดูได้ดีมากๆ เลยทีเดียว
ในส่วนของด้านภาพและการอนิเมทนั้นก็ต้องขอยกนิ้วให้กับทางทีมงานจริงๆ ฉากแอคชั่นมีการเคลื่อนไหวที่เรียกได้ว่าไม่ติดขัด การเล่นมุมกล้องที่ทำให้ฉากดูเนียนและทำให้ทั้งตัวละครและฉากดูกลมกลืนกัน ยังไม่นับถึงเรื่องการจัดเต็มในเรื่องของแสง สี และเอฟเฟ็กต์ชนิดที่เห็นฉากต่อสู้แล้วต้องมีแอบขนลุกอย่างแน่นอน
อีกหนึ่งความน่าประทับใจคือการกระจายบทตัวละคร โดยตัวอนิเมะ My Hero Academia นั้นปฏิเสธไม่ได้ว่ามีตัวละครที่ค่อนข้างเยอะในระดับนึง แต่ในมูฟวี่นี้เราจะเห็นได้ว่าทางทีมงานได้มีการพยายามกระจายบทให้กับตัวละครได้มีบทกันอย่างทั่วถึง ซึ่งช่วยให้เราเข้าใจถึงการมีอยู่และสถานการณ์ปัจจุบันของตัวละครแต่ละตัวอย่างชัดเจน รวมไปถึงการสร้างความโดดเด่นให้กับตัวละคร ในแบบที่เรียกได้ว่าตัวละครเกือบทุกตัวต่างก็มีโมเมนต์ให้จดจำกันอย่างขึ้นใจเลยทีเดียว
ในส่วนของเนื้อเรื่องนั้นมีจุดพีคบ้างเป็นบางช่วงแต่ไม่ได้ถึงขั้นที่ร้องว้าวได้ หลักๆ แล้วมีการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างจะเป็นเส้นตรง มีหักมุมบ้างแต่ก็ไม่ได้หักมุมจนถึงขั้นชวนให้แปลกใจอะไร แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ทำเนื้อเรื่องมีความน่าเบื่อหรือกร่อยแต่อย่างใด รวมไปถึงตัวมูฟวี่ก็ยังคงแสดงให้เห็นถึงคอนเซปต์ความเป็นฮีโร่อย่างชัดเจนอีกด้วย
แต่โดยรวมแล้ว ถือว่าสนุกมาก ๆ ครับได้เห็นฮีโร่แสดง Quirk(อัตลักษณ์)
ออกมาและช่วยกันปลด Quirk Trigger Bomb(ระเบิดกระตุ้นอัตลักษณ์) ที่ถูกองค์กรที่มีชื่อว่า Humanrize ซึ่งเชื่อใน Quirk Doom Theory (ทฤษฎีอัตลักษณ์ดับสูญ) ที่มีความคิดที่จะทำให้บรรดาเหล่าฮีโร่สูญเสียอัตลักษณ์เหล่านั้นไปและอยากให้โลกเป็นไปตามอุดมคติผิดที่วาดฝันไว้ ซึ่งฮีโร่จะถูกแบ่งเป็นแต่ละทีมกระจายไปตามแต่ละประเทศทั่วโลกเพื่อแก้ไขเหตุการณ์นี้ และยังมีตัวละครหลักอย่าง Endeavor กับครูต่าง ๆ ของโรงเรียนUA ที่ได้กระจายกันไปเพื่อต่อสู้กับคนของลัทธิ Humanrize ทั่วโลก และมี และยังมีตัวละครหลักอย่าง Endeavor กับครูต่าง ๆ ของโรงเรียน UA ที่กระจาย
คอยดูสถาการณ์โดยรวมอยู่ที่ HQ(ตัวย่อของ Headquarter ที่แปลว่า ศูนย์บัญชาการ) โดยหัวหน้าของลัทธินี้มีชื่อว่า Flect Turn ที่มีอัตลักษณ์ที่ผมคิดว่าโคตร OP (ที่เรียกว่า Overpower หรือ โกงเกินไปนั่นเอง) คือ สะท้อนกลับทุกอย่างที่กระทำใส่เจ้าตัวคืนไปให้คนที่กระทำเหล่านั้นไม่ว่าจะเป็น Physical Attack (การโจมตีทางกายภาพ) หรือการโจมตีด้วยอัตลักษณ์ก็ตามครับ
ซึ่งอัตลักษณ์นี้ก็มีขีดจำกัดอยู่ครับ ซึ่งบอกเลยว่าการต่อสู้ในแต่ละแมตช์นั้นมันส์มาก ๆ ครับ เพราะBakugo กับTodoroki เองนั้นก็เจอ ศึกหนัก เหมือนกัน เพราะ Bakugo ต้องเจอคนของลัทธิ Humanrize ที่ โจมตีโดยสายที่มีปลายแหลมข้างหลังและความสามารถสุดโหดของเค้าคือการ ‘แยกร่างได้’ ซึ่งในภายหลังเจ้าตัวแยกร่างได้ฉีดยากระตุ้นอัตลักษณ์และ Power Up เพิ่มพลังตัวเองให้โหดกว่าเดิม
ในภาคมูฟวี่นี้ มิโดริยะ และ ออลไมท์ได้รับคำเชิญให้ไปร่วมงาน ไอ เอ็กซ์โป หรือเทศกาลที่เหล่าฮีโร่มารวมตัวกันบนเกาะวิทยาศาสตร์ที่เคลื่อนที่ไปมาได้ แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่างานที่เหล่าฮีโร่รวมตัวกันชุกชุมแบบนี้ จะเกิดเหตุการณ์เหล่าร้ายมาบุกยึดเกาะและจับทุกคนเป็นตัวประกันไว้ได้ เหล่าฮีโร่มืออาชีพทั้งหลายรวมไปถึงออลไมท์เองก็เสียท่า เหล่าร้ายเหมือนต้องการเข้ามาชิงอะไรบางอย่าง แต่มันก็พลาดที่ลืมจัดการกับพวกเด็กนักเรียน ที่นำทีมโดยมิโดริยะและเพื่อนๆ จะต้องหยุดยั้งและช่วยเหลือทุกคนเอาไว้ให้ได้
แต่แล้วด้วยหัวใจที่แรงกล้าในการอยากช่วยผู้คน วันหนึ่งขณะที่เขากำลังเสี่ยงชีวิตช่วยคนก็ได้พบกับออลไมท์ และด้วยจิตใจอันบริสุทธิ์ในตัวเด็กหนุ่ม ออลไมท์จึงได้เผยความจริงกับเดกุว่าอัตลักษณ์ของเขานั้นเป็นของพิเศษที่เรียกว่า วันฟอร์ออล ซึ่งสืบทอดต่อกันมาเป็นรุ่น ๆ และออลไมท์ก็ขอมอบอัตลักษณ์ทรงพลังที่สุดนี้ให้เดกุสืบทอดเจตนารมณ์การเป็นฮีโร่ต่อไป โดยผลข้างเคียงที่ออลไมท์ไม่ได้บอกกับเดกุคือ มันจะทำให้พลังของออลไมท์นั้นเสื่อมถอยลงเรื่อย ๆ ด้วย แต่ก็เพราะพลังพิเศษนี้จึงทำให้เดกุเข้าเรียนโรงเรียนสอนฮีโร่ และสานต่อความฝันได้ แม้ว่าพลังที่เขาได้รับมาจะทรงพลังเกินที่ร่างกายอันอ่อนแอของเขาจะรับได้ ทำให้เขาต้องบาดเจ็บทุกครั้งที่ใช้พลังก็ตามที
หนังยังคงพกตัวละครเหล่านักเรียนฮีโร่ตัวหลัก ๆ มาร่วมผจญภัยเกาะวิทยาศาสตร์อย่างครบครัน รีวิวหนังnetflix My Hero Academia The Movie
ซึ่งใครไม่เคยดูมาก่อนก็จะค่อย ๆ รู้จักทีละตัวไปได้ แม้อาจจะช้ากว่าคนที่เคยดูมาก่อนก็ตาม เพราะหนังเฉลี่ยบทและแสดงความเป็นตัวละครนั้น ๆ ออกมาได้อย่างเด่นชัดทีเดียว นอกจากนี้ยังเปิดตัวละครใหม่อย่างครอบครัวเพื่อนของออลไมท์สมัยเรียนที่อเมริกา นั่นคือ ดร.เดวิด ชีลด์ และลูกสาวอย่าง เมลิซซ่า ที่มาสายสาวแว่นผมทองได้ใจคนดูไปอย่างรวดเร็ว
ในช่วงแรกที่หนังปูเรื่อง อาจจะน่าเบื่อไปบ้าง แต่ก็ไม่นาน หลังจากที่เครื่องติดปุ๊บหนังก็ดูได้อย่างสนุก สิ่งที่ชอบมากคือเสียงและดนตรีประกอบของหนังที่จริงๆแล้วมิกซ์มาดีตั้งแต่ตอนทำซีรีส์แล้ว มันกลายเป็นความมันส์และความอิ่มอีกอย่างเวลาเราดูหนังเรื่องนี้เลย แถมตรงจุดนี้อย่างสอดคล้องกับสิ่งที่ชอบมากอีกจุด นั้นก็คือฉากแอคชั่นที่โคตรมันส์ จัดเต็มมาก เพราะตัวร้ายไม่ง่อยเลย อลังการมากๆ สมน้ำสมเนื้อกับ ออลไมท์ และพระเอกของเราเลย
ยังไงก็ตามหนังได้มีจุดบกพร่องบางอย่างที่ชวนให้หงุดหงิดเล็กน้อยสำหรับแฟนการ์ตูนคือ ไม่แน่ใจว่าจะเอาไปยัดไว้ตรงช่วงไหนของ Timeline ปกติดี คือมันก็เป็น The Movie นะ ถ้ามองแยกไปเลยก็อาจจะไม่ติดอะไร (แต่ตอนแรกแอบได้ยินว่าเป็นส่วนเสริม)
ในขณะเดียวกันสำหรับคนไม่เคยดูการ์ตูนชุดนี้ ผมคิดว่าดูเพลินๆได้อยู่นะ เพราะสนุกมาก แต่อาจจะงงเรื่องอัตลักษณ์ ความสามารถตัวละครแต่ละคน คือหนังมีเล่าเคร่าๆแหละ แต่พวกตัวละครเพื่อนพระเอกทั้งหลาย ไม่มีการแนะนำตัวกันแล้ว มาถึงก็ซัดกันโครมๆ ซึ่งคนติดตามเรื่องนี้มาแต่แรกคงจะไม่มีปัญหาใดๆเลยครับ
ในฉบับหนังนี้ ใช้ชื่อตอนว่า Two Heroes ก็สามารถสร้างมิติของคำเล่นในตัวหนังได้คมคายมาก
ทั้งหมายถึง 2 ฮีโร่เพื่อนรักในอดีตอย่าง ออลไมท์ และเดวิด/ 2 ฮีโร่ต่างเจเนเรชั่นอย่างรุ่นออลไมท์และรุ่นเด็ก ๆ/ 2 ฮีโร่ที่หมายถึงศิษย์อาจารย์อย่าง ออลไมท์กับเดกุ/ 2 ฮีโร่พ่อลูกที่แม้ไม่มีอัตลักษณ์แต่ก็ใช้พลังวิทยาศาสตร์ช่วยผู้คนอย่างครอบครัวชีลด์/ และยังรวมถึง 2 ฮีโร่ ที่คือเหล่าผู้มีอัตลักษณ์และสวมบทฮีโร่ กับคนที่ไม่มีอัตลักษณ์แต่มีหัวใจของฮีโร่ ซึ่งตัวเดกุเองนั้นเป็นจุดรวมของฮีโร่ทั้ง 2 แบบนี้ด้วย หนังเลยมีอะไรให้เล่นมาก แต่ถึงจะดูมีซับพล็อตมากมาย หนังก็เอาอยู่และเล่าแต่ละประเด็นได้ชัดเจน คม และสนุก สมกับที่ดูได้ตั้งแต่เด็กจนผู้ใหญ่
ส่วนTodoroki ก็เจอกับคนของลัทธิเหมือนกัน เป็นลักษณะคล้าย ๆ กับ Muscular ของสมาพันธ์วายร้ายที่การโจมตีทางกายภาพแข็งแกร่งมาก ๆ และภายหลังสามารถเพิ่มพลังตัวเองได้อีก บอกเลยว่า มันส์ทั้ง 3 คู่ครับ รวมไปถึงการปลด Trigger Bomb ในแต่ละที่นั้นก็ลุ้นกันจนถึงวินาทีสุดท้ายเลยทีเดียว