เรามีซีรี่ย์เรื่องใหม่ จากเน็ตฟริก มารีวิวซีรี่ย์netflixยอดนิยม wednesday เวนส์เดย์ ครอบครัว addams จากผู้สร้างผู้กำกับทิม เบอร์ตัน ซึ่งในซีรี่ย์มีทั้งหมด 8 ตอน ทั้งระบบ ซับไทยและพากย์ไทย และนักแสดงมากความสามารถ ซึ่งใครที่เป็นแฟนตัวยง ครอบครัวสุดแปลกนี้ บอกเลยว่า ห้ามพลาดเด็ดขาด ซีรี่ย์เรื่องนี้ติดอันดับ 10 ของnetflix ใครที่ยังไม่ได้ดูไปดูเลย
เดิมที The Addams Family อาจเป็นการ์ตูนเฮฮาในปี 1938 ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากการแต่งงานที่ดิ้นรนของผู้เขียน Charles Addams ด้วยอารมณ์ขันที่มืดมน มันเต็มไปด้วยตัวละครที่น่ากลัวซึ่งดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่อยู่ในวันฮัลโลวีน แต่พวกเขามากันเป็นครอบครัวจริงๆ ความแตกต่างเล็กน้อยนี้เมื่อรวมกับความขบขันของผู้ใหญ่ที่เปลี่ยนการมองโลกในแง่ร้ายให้กลายเป็นความขบขันทำให้เกิดเสน่ห์ที่เย้ายวนใจ
เรื่องย่อ ซีรี่ย์ Wednesday
Wednesday เรื่องย่อ: เวนส์เดย์ ลูกสาวผู้มืดหม่นหน้าตายในครอบครัวแอดดัมส์สุดประหลาด ถึงวัยต่อต้านพ่อแม่และถูกส่งเข้าโรงเรียนรวมตัวประหลาดที่พ่อกับแม่เคยเป็นศิษย์เก่า และเธอก็ต้องรับมือมากกว่าปัญหาวัยรุ่นทั่วไปที่ปวดหัวกับเรื่องความสัมพันธ์และหนุ่มหล่อมากมาย เพราะเวนส์เดย์ต้องไปพัวพันกับความลับและการฆาตกรรมในละแวกชุมชนโบราณนี้ด้วย
ความน่าสนใจและดีไซน์ของซีรี่ย์ เวนส์เดย์
ที่น่าสนใจคือการออกแบบสไตล์โกธิคที่แปลกประหลาดซึ่งตัวละครต่างๆ เกี่ยวพันกับสังคมปกติ ช่างเป็นโลกแฟนตาซีที่แปลกประหลาดเสียนี่กระไร ถึงไม่สนใจก็ไม่ต้องดูอยู่ดี ไม่แปลกใจเลยที่งานด้านภาพที่โดดเด่นเช่นนี้จะสร้างเป็นภาพยนตร์หรือซีรีส์ได้อย่างสนุก
และภาคล่าสุดทาง Netflix ก็ได้เลือกผู้กำกับมือเก๋าอย่าง Tim Burton ที่เคยฝากผลงานไว้ในเรื่อง Sleepy Hollow (1999), Corpse Bride (2005) หรือ Frankenstein (2012) ซึ่งถือว่าชอบพอๆ กัน พลาดไปก็แปลกใจที่อดัมส์ ‘ แฟรนไชส์ไม่เคยอยู่ในมือของเขามานานหลายทศวรรษ
สำหรับ เวนส์เดย์ แอดดัมส์ เป็นเรื่องที่ควรค่าแก่การกล่าวถึงผู้อำนวยการสร้างและเขียนบทของซีรีส์ Alfred Goff และ Miles Miller ซึ่งเคยสร้างเรื่องราวในซีรีส์มาก่อน “Spider-Man 2” ของแซม ไรมี (2004) เป็นหนึ่งในภาคต่อของซูเปอร์ฮีโร่ที่น่าจดจำที่สุด
พวกเขานำเสนอวิธีที่น่าสนใจสำหรับอดัมส์ที่จะเติบโตในยุคใหม่ โดยจับภาพตัวละครของลูกสาววัยรุ่นวันพุธที่ค้นพบตัวเองและปฏิเสธเพื่อนเพราะเธอเป็นคนแปลกและขาดเพื่อน มาโรงเรียนที่รวมเด็กต่างด้าว และยังมีอีกหลายเผ่าพันธุ์ รวมทั้งแวมไพร์ มนุษย์หมาป่า คราเคน และมนุษย์อื่นๆ อีกมากมาย แต่พล็อตเรื่องใหม่นี้สนุกและน่าจะจุดประกายจินตนาการของทิมให้มากยิ่งขึ้น เบอร์ตันยังได้โชว์ฝีไม้ลายมือ มันไม่เหมือนกับโรงเรียนเหนือมนุษย์ที่คุณจินตนาการไว้ใน “Miss Peregrine’s Home for Exceptional Children” (2016) ซึ่งยังคงยึดติดกับเนื้อหาของหนังสือ
ด้วยเนื้อเรื่องที่ใกล้เคียงกับเด็กที่มีพลังพิเศษและมีปัญหาต่างๆ นานา ทำให้นึกถึงหนังแนวเดียวกันอย่างซีรีส์ “Twilight” หรือหนัง “New Mutants” (2020) แต่ดูแล้วสนุกกว่าซีเรียส The More Wicked รวม องค์ประกอบที่คล้ายกันหลายอย่าง เช่น อาจารย์ผู้ลึกลับ School Story Riddles แม้แต่การแข่งขัน Po Cup ประจำปีก็ยังชวนให้นึกถึงปริศนาชุด Harry Potter โลกและตัวละครใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจก็ไม่มีข้อยกเว้น ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือมันเป็นแฟนตาซีกอธิคมืดแบบทิม เบอร์ตันที่มีบุคลิกที่ไม่คุ้นเคยสำหรับตัวละครหลัก แต่มีความแตกต่างเล็กน้อยระหว่างประกายของดวงตาคู่นั้นและความกระตือรือร้นของโลกทัศน์ใหม่ ไปชมกันได้ใน รีวิวหนังnetflixยอดนิยมน่าดู
ซีรี่ย์บอกเล่าเรื่องราวของเด็กสาวสุดแปลก
ซีรีส์เล่าเรื่องการก้าวพ้นวัยของเด็กนอกคอกเด็กแปลกได้อย่างน่าสนใจ มีความขัดแย้งเกิดขึ้นมากมายในแง่ความสัมพันธ์ที่สร้างพัฒนาการตัวละครทั้งความรู้สึกภายในใจของเวนส์เดย์ที่อยากเป็นตัวเองและปฏิเสธการกลายเป็นลูกไม้หล่นใกล้ต้นใต้เงาอาจโดดเด่นของผู้เป็นแม่ที่รับบทโดย แคทเธอรีน เซตา โจนส์ (Catherine Zeta-Jones) ความรู้สึกไม่อยากเสียใจอย่างตอนที่สูญเสียสัตว์เลี้ยงตัวแรกในวัยเด็กจนกลายเป็นความรู้สึกไม่อยากสนิทสนมหรือผูกมัดกับใครเลยในตอนโต
ซึ่งพอเหมาะว่าเวนส์เดย์อยู่ในวัยที่ต้องพัวพันเรื่องเพื่อน คนรัก รักสามเส้าพอดีอีก และความรู้สึกอยู่วงนอกถูกว่าเป็นพวกประหลาดนอกคอกแม้แต่ในสังคมของพวกเด็กแปลกด้วยกัน มันทำให้เราเหมือนโตไปพร้อมเวนส์เดย์ กลุ้มใจ ว้าวุ่นใจ และเอาใจช่วยให้เธอผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
ในขณะเดียวกันความขัดแย้งภายนอกตัวละครที่เป็นส่วนขับดันเรื่องราวก็ไม่ได้น่าเบื่อหรือเยิ่นเย้อเลย เป็นการใส่ปมปริศนาที่น่าติดตามมาตั้งแต่ต้น ทั้งการลอบทำร้ายเวนส์เดย์จากบุคคลลึกลับ ปริศนาสมาคมลับโบราณที่แฝงตัวในโรงเรียน ปีศาจร้ายในป่าที่ออกสังหารผู้คนจนสุมไฟลงกองน้ำมันแห่งความชิงชังแต่ดั้งเดิมระหว่างชาวเมืองที่เป็นคนธรรมดา (ที่ในเรื่องเรียกว่าพวกนอร์มมี) กับพวกคนนอกคอกที่มีพลังพิเศษในโรงเรียน (ที่เรียกตัวเองว่าเอาต์คาสต์) กลายเป็นประเด็นใหญ่จนเหมือนเวนส์เดย์ต้องทำหน้าที่ซูเปอร์ฮีโรผสมนักสืบไปไม่รู้ตัว
ทั้งประเด็นการพัฒนาตัวละครอย่างหนังรักวัยรุ่นและประเด็นขัดแย้งทางสังคม ประเด็นต่างๆ เหล่านี้ตึงเครียดและมีปริศนามากมาย ทำให้ซีรีส์ ตื่นเต้น ครบรส กลมกล่อม และน่าติดตามมาก ยิ่งไปกว่านั้นการบอกต่อปากต่อปากหรือการแฮ็กกันก็สนุกแล้ว บางประโยคก็สะอึกเมื่อมองย้อนไปถึงปัญหาสังคมของเรา ประกอบกับความยาว 8 ตอนของซีรีส์ เหมาะสมกับเนื้อหาค่อนข้างดี นี่คือซีรีส์ที่ดูได้รวดเดียวจบโดยไม่หมกมุ่นกับเรื่องใดๆ
อีกทั้งการเลือกพาดหัวข่าวในวันพุธนี้ต้องยอมรับว่าเป็นการต่อยอดความโด่งดังและความสำเร็จของคริสติน่า ริชชี่ จากบทบาทของเธอในภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง The Addams Family (1991) จนกลายเป็นตัวละครในความทรงจำของเฟ เกิดคำถามสำคัญว่าใครจะเข้ามาทำหน้าที่นี้ในปี 2565?
และผู้ชนะคือเจนน่า ออร์เทกา นักแสดงหญิงที่เป็นนางเอกช่องดิสนีย์แชนแนลตั้งแต่เธอยังเด็ก และต่อมาก็มีตัวประกอบใน Netflix ตอนอายุ 20 ปี เขาก็อยากจะเล่นเป็นนักเรียนเหมือนกัน ในตอนแรก เขาก็กังวลว่าจะจัดการแสดงได้หรือไม่ แต่หลังจากดูซีรีส์จริง ๆ แล้วฉันต้องยอมรับว่า Burton กล่าวว่าเป็นวันพุธที่สมบูรณ์แบบ
บทบาทและการแสดง
แม้แต่ในรูปวันพุธที่แปลกประหลาด Ortega ก็ยังดูน่าทึ่ง สายตาเย็นชาเหมาะกับบทนี้ดี แต่ก็ยังแฝงความน่ารักและความอ่อนโยนไว้ใต้สีหน้าหลอนๆ และคำพูดตัดพ้อ Ortega คนเดียวสามารถแบกซีรีส์ในฐานะตัวเอกได้
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าตัวละครอื่นไม่ดีเท่า เอนิด เพื่อนร่วมห้องของวันพุธ (แสดงโดยเอ็มมา ไมเยอร์ส) ก็สนุกเช่นกันในฐานะคู่หูที่สมบูรณ์แบบของวันพุธ น่ารักและทรงพลัง มีการแชทพอสมควรและไม่เกะกะเลย อาจกล่าวได้ว่าเขาและออร์เตกาเป็นธรรมชาติ
ที่น่าชมอีกอย่างคือการเปรียบเทียบระหว่างต้นฉบับกับพากย์ไทย คราวนี้เสียงพากย์ไทยเหมาะกับบุคลิกตัวละครมากกว่าเสียงนักแสดงจริงๆ โดยรวมแล้วเป็นตอนที่แนะนำว่าการดูพากย์ไทยครั้งนี้แปลตรงตัวกว่าการพยายามใช้คำใหม่ในซับไทย
ไม่ต้องพูดถึงการกีดกันตัวละครรองหรือตัวประกอบอื่น ๆ มีที่เด่น ๆ ให้จดจำ และ Game of Thrones และ Sandman ก็เริ่มเล่นตัวละครที่ทรงพลัง ดุร้าย และน่าสงสัย คล้ายกับ Sneaker ใน Harry Potter บทบาทของปู่ ยังคงเป็นครูพฤกษศาสตร์และครูประจำหอพักของโก๊ะเนิร์ดแต่ดูมีความรู้มาก ซึ่งนำริชชี่ ที่เคยเล่นวันพุธเข้ามาผสมผสาน สำหรับนักแสดงรุ่นเก๋า พวกเขาเป็นตัวเลือกที่ดีจริงๆ
ฝั่งเด็กและตัวแสบประจำโรงเรียนอย่าง Bianca ก็เลือกเอาเด็กผิวสีอย่าง Joy Sunday มารับบทนี้โดยไม่รู้สึกว่าถูกบังคับ เหมือนที่ Netflix ชอบใช้คนดำในทางที่ผิด ในขณะที่ตัวเอกตัวดี นางเอกร่วม ดูหยิ่งแต่แอบห่วงนางเอก Hunter Doohan กับ Percy Hynes White ที่จะมาสร้างรักสามเส้าให้คนดู น่าสนุกที่ได้เห็นกองเชียร์ฝั่งสปลิท
สิ่งที่ไม่คาดคิดที่สุดคือการปรากฏตัวของเจ้ามือ Thing ที่น่ารำคาญซึ่งกลายเป็นมาสคอตที่น่ารักและติดตามนางเอกไปทุกที่ มันตลกและน่าทึ่งโดยไม่ต้องพูดอะไรสักคำ เจ๋ง คุณต้องชื่นชมฝีมือของผู้ที่นำเสนอ รวมถึง Victor Dorobantu
การร้องเรียนเพียงเล็กน้อยก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนเคลื่อนไหวได้ หรือคุณอาจคิดว่าเป็นเดือนกันยายนสำหรับเบอร์ตันในสี่ตอนแรกหลังจากเปลี่ยนผู้กำกับจากทิม ด้วย Montero และ James Marshall ซีรีส์มีชีวิตใหม่ มันยากที่จะบอกว่าอะไรที่เคยทำให้ความสามารถพิเศษลดลงเพราะหัวหน้างานเปลี่ยนไป เป็นเพราะเขาคุ้นเคยกับโลกทัศน์นี้มากจนดูเหมือนผิดปกติ หรือเพราะเปลี่ยนเนื้อหาให้เล่าเหมือนหนังฮิตก็ไม่รู้
แต่ในช่วงหลัง ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้ผลิตซีรีส์อาจเลือกผู้ชายที่เหมาะสม และทิม เบอร์ตันก็เปิดวิสัยทัศน์ที่น่าตกใจและน่าหลงใหล ผู้กำกับมอนเตโรติดตามความสัมพันธ์สุดป่วนระหว่างแฟนสาวกับความรักของวัยรุ่น มาร์แชลล์เพิ่มความก้าวร้าวอย่างรุนแรงในบทสรุป เป็นไปได้ แต่เวทมนตร์ของ Burton ห่วยแตก
ซีรี่ย์ เวนส์เดย์ แฟนตาซีกับการสืบค้นความจริง
ซีรีส์แฟนตาซีทริลเลอร์เรื่อง High School นำผู้ชมมาร่วมกันไขปริศนากับ Wednesday Addams กิจกรรมของโรงเรียนเข้มข้นและน่าตื่นเต้น ในขณะเดียวกันการยั่วยวนลึกลับก็เสร็จสมบูรณ์ โดยส่วนตัวแล้วฉันรู้สึกว่าแม้ว่าจะมีสถานที่ที่ไม่น่าพอใจอยู่บ้าง ขี้อายกับเรื่องบางเรื่อง แต่ตัวละครอย่างวันพุธกลับดึงเราออกจากเรื่องนั้นโดยไม่คาดคิด
เมื่อนาง Thornhill (Christina Ricci) บอกวันพุธว่า “คุณและฉันเหมือนกันมากกว่าที่เราคิด” เป็นข้อเสนอแนะเล็กน้อยจากนักเขียน เนื่องจาก Christina Ricci รับบทเป็น Wednesday Adams มันน่าสนใจ
อย่างไรก็ตามฉันคิดว่าวันพุธหลายคนไปดูซีรีส์ด้วยตัวเอง เพราะผู้เขียนไม่สามารถบรรยายความสนุกหรือเรื่องราวทั้งหมดได้ ไขปริศนาฆาตกรรมเหนือธรรมชาติใน Netflix กับน้องพุฒิ ซับไทยและซับไทย
